
ไล่ล่าระทึก! กระบะทึบซิ่งหนีด่านตรวจ ก่อนเจอหลักฐานแน่นท้ายรถ
วันที่ 30 ส.ค. 2568 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ร.29/ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ร.29/รอง ผบก.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.13(ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)
ได้ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดวางแผนสกัดกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา เนื่องจากจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ทุกวัน จึงเชื่อว่ายังมีขบวนการดังกล่าวเตรียมเข้ามาอย่างแน่นอน
ต่อมาเมื่อเวลา 00.30 น. นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้รับแจ้งว่าจะมีรถยนต์กระบะทึบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นจำนวนมากเข้ามาในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ด้วยการใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 323 สังขละบุรี-กาญจนบุรี จึงสั่งการให้นายวัลลภ จินดา นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.อ.ทองผาภูมิ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.135 เจ้าหน้าที่ ตร.ทางหลวง ออกลาดตระเวนไปตามถนนสาย 323
จนกระทั่งไปถนนหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พบรถยนต์กระบะทึบยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก สีขาว ตอนเดียว ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับสวนมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรี เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่าเมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่จึงเหยียบคันเร่งหลบหนีการตรวจค้นไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งไปถึงบ้านกรังกาสี หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร คนขับเห็นท่าไม่รอด จึงเลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยวแล้วจอดรถทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน ทำให้สามารถหลบหนีไปได้
ต่อมาได้ตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ถึงกับตกใจ เมื่อพบว่ามีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งชายหญิงยืนแออัดมาเต็มคันรถมากถึง 52 คน เป็นชาย 37 คน หญิง 15 คน แต่ยังโชคดีที่บริเวณหลังคารถยนต์คันดังกล่าวมีการดัดแปลงให้มีช่องระบายอากาศทำให้แรงงานไม่ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตหรือเป็นลมหมดสติระหว่างเดินทาง
แรงงานจำนวนดังกล่าวไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่อีกทั้งยังสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ ด้วยการสอบปากคำผ่านล่ามแปล
โดยทั้งหมดให้การว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติด้านอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียมาที่มีชายแดนติดกับบ้านพระเจดีย์สวามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เมื่อข้ามชายแดนเข้ามาได้มีผู้นำพาเดินลัดเลาะหลบหลีกด่านตรวจน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู ตลอดเส้นทางมีทั้งนั่งรถและลงเรือโดยใช้เวลานานหลายวันกว่าคนขับรถยนต์คันดังกล่าวจะมารับไปส่งปลายทางในพื้นที่พักคอยในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี แต่ไม่ทราบจุดนัดหมาย
เมื่อไปถึงจะมีรถมารับอีกทอดหนึ่งเพื่อนำแรงงานทั้งหมดไปส่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยจะต้องจ่ายค่าหัวให้กับผู้นำพาคนละ 40,000-50,000 บาทเพราะอยากมีงานทำ แต่ระหว่างเดินทางไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
อย่างไรก็ตามหลังจากกลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับสรภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อติดตามจับกุมตัวคนขับที่หลบหนีไปได้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป