เกษตรกรชาวสวนชมพู่

เกษตรกรชาวสวนชมพู่

เกษตรกรชาวสวนชมพู่ที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เจอพิษโควิดต้องนำผลผลิตไปทิ้ง หลังราคาตกต่ำจนประสบปัญหาการขาดทุนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หนักที่สุดในรอบ 20 ปี รวมทั้งไม่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ ขนไปขายที่ไหนก็ขายไม่ได้ จนผลผลิตล้นตลาด บางรายต้องปล่อยให้ผลผลิตคาต้น ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกษตรกรชาวสวนชมพู่ที่หมู่ 17 บ้านคลองปากโบสถ์ ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการแพร่กระจาย CV19 เพราะได้ส่งผลกระทบให้ผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิดมีราคาตกต่ำ

โดยเฉพาะเกษตรกรที่กำลังประสบชะตากรรมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนหนักสุดในรอบ 20 ปี อยู่ในขณะนี้ ก็คือเกษตรกรชาวสวนชมพู่ที่ทุกปีจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงหน้าสวน แต่ในปีนี้ปรากฏว่าพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อได้หายไปจนเกือบทั้งหมด จะมีมาบ้างก็จะมาขอนำผลผลิตไปขายก่อนโดยยังไม่จ่ายเงินและยังไม่ยอมกำหนดราคาที่มารับซื้อ หลังผลผลิตชมพู่มีราคาตกต่ำจนประสบปัญหาการขาดทุนโดยเกษตรกรบางรายต้องยอมนำผลผลิตไปเททิ้ง

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบชมพู่ที่ห่อไว้ตามต้นที่ยังไม่ได้เก็บจำนวนมาก เกษตรกรชาวสวนชมพู่จำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันคัดแยกชมพู่เพื่อบรรจุใส่ถุง ส่วนชมพู่ที่ไม่สมบูรณ์เกษตรกรบางรายก็จะเด็ดมาเททิ้ง บางรายก็ปล่อยให้เหี่ยวเฉาตายคาต้น

นางสำเภา นาคน้อย อายุ 68 ปี เผยว่าปีนี้ ชาวสวนชมพู่เดือดร้อนมากจากปัญหา CV 19 ทำให้ในปีนี้ไม่มีพ่อค้าต่างถิ่นแวะเวียนเข้ามารับซื้อชมพู่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา มีเพียงพ่อค้าประจำที่มารับซื้อทุกปีแต่ก็มารับซื้อผลผลิตแบบจำกัดจำนวน เนื่องจากเขารับซื้อไปแล้วขายไม่ออก ขณะที่ผลผลิตของชาวสวนมีจำนวนมากทำให้ได้รับความเสียหายจนต้องเก็บทิ้ง

นางสำเภา นาคน้อย

นางสมพิศ สิงห์น้อย อายุ 48 ปี ระบุว่า ปีนี้ไม่ค่อยมีพ่อค้ามารับซื้อ ที่มารับซื้อก็ไม่ตีราคาให้ต้องยอมให้เขาเอาไปขายก่อนถ้าขายได้เท่าไหร่ก็จ่ายตามนั้นก็ยังดีกว่าปล่อยทิ้ง สาเหตุเกิดจากตลาดปิดทำให้ส่งออกไม่ได้ ปกติแล้วจะส่งไปขายที่พิษณุโลก เชียงราย และส่งข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่ปีนี้ส่งออกไม่ได้เลยเพราะปัญหาโควิด ปีที่แล้วชมพู่ก็ออกช่วงโควิดระบาดปีนี้ก็โดนซ้ำอีก แล้วยังประสบปัญหาภัยแล้งอีก

ในช่วงสองปีนี้ประสบปัญหาหนักมากๆ ทุกปีผลผลิตจะต้องออกก่อนปีใหม่ แต่ปีนี้ออกหลังปีใหม่ปกติ ทุกปีมีพ่อค้ามารับซื้อขายง่ายกว่านี้แต่ปีนี้ขายยากมาก ไม่มีพ่อค้ามาซื้อพ่อค้ามารับไปก็ขายไม่ได้ อยากให้หน่วยงานของรัฐมาช่วยถ้าประกันราคาไม่ได้ก็ขอให้ช่วยเหลือในด้านหาตลาดมารองรับให้หรือเยียวยาก็ยังดี ถ้าปล่อยให้ชาวสวนขายผลผลิตไม่ได้อย่างนี้ต่อไปคงต้องตัดต้นทิ้ง

สำหรับราษฎรในพื้นที่หมู่ 17 บ้านคลองปากโบสถ์ ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ มีทั้งหมด 52 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตรทำสวนปลูกชมพู่พันธุ์ทับทิมจันทร์ ที่มีรสชาติหวานกรอบ ครัวเรือนละ 5-10 ไร่ ผลผลิตชมพู่จะเก็บเกี่ยวได้เริ่มจากเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนเมษายน แต่ปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตออกช้ากว่าทุกปี และยังประสบปัญหาการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสองปี

ขอบคุณ amarintv

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ