เจ้าของร้านที่เชียงใหม่ เลิกบวกภาษีเพิ่ม หากใช้เราชนะ

เจ้าของร้านที่เชียงใหม่ เลิกบวกภาษีเพิ่ม หากใช้เราชนะ

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีร้านค้าแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นป้ายบอกลูกค้าที่มาซื้อของภายในร้าน หากใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการเราชนะ และสิทธิคนละครึ่ง สิทธิบัตรประชารัฐ ต้องเสียภาษีร้อยละ7 จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และสร้างความมึนงงให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

ล่าสุด นางทิพาภรณ์ ชัยศิริกุล ธีรเมทินี เจ้าหน้าที่ทางพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมนายบุญฤทธิ์ นิปวนิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริมและนายศิวะ ศิวะศาสนพงศ์ สรรพากรอำเภอแม่ริมเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว จากการตรวจสอบวันนี้พบว่าร้านดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนป้ายข้อความที่บอกลูกค้าจากเดิมที่ติดป้ายบอกไว้ว่ามีการบวกภาษีร้อยละ 7 ตอนนี้เปลี่ยนป้ายเป็นราคาสินค้าบวกภาษีไปแล้วร้อยละ 7

ทางพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตรวจสอบราคาสินค้าและป้ายสินค้าด้วยพบว่า สินค้าบางรายการไม่ได้มีการติดป้ายราคาและมีการจำหน่ายราคาปลีกเกินราคาอย่างเช่นห หน้ากากอนามัยซึ่งเป็นสินค้าควบคุมทางพาณิชย์จังหวัดให้จำหน่ายในราคาไม่เกิน 2.5 บาท แต่ทางร้านจำหน่ายในราคาชิ้นละ 5 บาท ทางพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จึงทำการเปรียบเทียบปรับไป 1,000 บาท

จากการสอบถามนายสกล ลิมโกมลวิลาศ อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่าร้านของตนพึ่งเข้าร่วมโครงการเราชนะ คนละครึ่ง และโครงการประชารัฐเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหลังลูกค้าได้เรียกร้อง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเข้าใจผิดของพนักงานที่มีการบวกราคาสินค้าเพิ่มอีก 7 เปอร์เซ็นต์จนกลายเป็นกระแสในโซเชียล ประกอบกับทางร้านมีโทรศัพท์ในการสแกนเครื่องเดียวจึงขึ้นป้ายแบบนั้นถือว่าเป็นความผิดพลาด ซึ่งขณะนี้ตนก็ได้ปรับปรุงแล้ว ฝากขอโทษลูกค้าทุกคนที่มาซื้อของก่อนหน้านี้แล้วพนักงานมีการบวกภาษีไปอีกร้อยละ 7 ซึ่งหลังจากนี้ไปการซื้อสินค้านั้นจะไม่มีการบวกเพราะสินค้าทุกอย่างรวมภาษีไปหมดแล้ว แต่ใบเสร็จของทางร้านนั้นเป็นใบเสร็จฉบับย่อซึ่งทางสรรพากรได้แนะนำให้มีการใส่เลขผู้เสียภาษีบนหัวบิลใบเสร็จของทางร้านด้วยตนก็จะเร่งทำ

ขณะที่นายบุญฤทธิ์ นิปวนิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม บอก ว่า ที่ผ่านมาได้รับร้องเรียนร้านค้าหลายแห่งที่มีการบวกราคาสินค้า ผลักภาระให้ประชาชนเสียภาษีซึ่งไม่ถูกต้องภาษีทุกอย่างรวมอยู่ในราคาสินค้าที่เราซื้ออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปทางอำเภอจะลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าต่างๆอย่างเข้มงวดเพื่อเป็นกันป้องกันและป้องปรามไม่ให้ร้านค้าเอาเปรียบผู้บริโภคนั้นมีความผิด ซึ่งถ้าหากมีการตรวจเจอจะมีการดำเนินการทางกฏหมาหมายและตัดสิทธิ ในการร่วมโครงการ ซึ่งครั้งแรกก็ต้องเป็นการตักเตือนไปก่อนแต่หากพบกระทำผิดอีกก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ