กรณีนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่ ได้แสดงอาการคุ กคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพลหลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค. 64 ทีมข่าว ลงพื้นที่บ้านลุงพล ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งหลังมีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ ปทส. จะเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ ทีมข่าวสังเกตว่าวันนี้ไม่มีช่างมาก่อสร้างพญานาคอีก เพราะถ้าเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ แล้วเจอช่างยังก่อสร้าง ก็สามารถจับได้ทันทีเพราะกระทำผิดซึ่งหน้า

ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค. 64 ทีมข่าว ลงพื้นที่บ้านลุงพล ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งหลังมีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ ปทส. จะเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ ทีมข่าวสังเกตว่าวันนี้ไม่มีช่างมาก่อสร้างพญานาคอีก เพราะถ้าเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ แล้วเจอช่างยังก่อสร้าง ก็สามารถจับได้ทันทีเพราะกระทำผิดซึ่งหน้า

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

แต่ถ้าวันนี้เจ้าหน้าที่มีคำสั่งให้รื้อถอนหรือทุบทำลา ย ตนก็พร้อมยอมรับ โดยตนยืนยันเจตนาในการก่อสร้างครั้งนี้ ต้องการให้เป็นแลนมาร์ก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ใน จ.มุกดาหาร แต่ถ้าทุบทำลายจริง ๆ ตนก็รู้สึกเสียดาย เพราะเสียเงินไปแล้ว แต่ประโยชน์ยังไม่เกิด ซึ่งถ้าจะทำลายตนก็จะบนบานบอกปู่ปาริจิตก่อน ส่วนเรื่องการขออนุญาตนั้น ก่อนสร้างตนได้ประสานแขวงการทางหลวง ปรึกษาเรื่องระยะห่างจากถนน ซึ่งกรมทางหลวงบอกว่าสร้างได้ แต่ไม่ได้ขอกรมป่าไม้ เพราะที่ดินนี้ได้รับเอกสิทธิ์จากครูที่เคารพนับถือ

โดยตนได้จ่ายค่าสินน้ำใจให้เพราะตนรับของฟรีไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การซื้อขาย ซึ่งเพิ่งเข้าไปคุยกับทางกรมป่าไม้ภายหลังเกิดเรื่อง ทราบว่าเป็นที่ป่าสงวน โดยการก่อสร้างพญานาคนี้ เริ่มมาจากตนมีความเชื่อในพญานาค ที่มีความเชื่อมโยงกับพุทธศาสนา และหากเชื่อว่าหากใครได้สร้างจะมีบุญบารมีมากขึ้น เมื่อทีมข่าวถามว่าลุงพลสร้างขึ้นแล้วมีบารมีมากขึ้นหรือไม่ ลุงพลก็เขย่งตัวขึ้นแล้วพูดว่า ผมสูงกว่านักข่าวไหม กรณีที่ก่อนหน้านี้ลุงพลเคยบอกว่า จุดนี้เคยเป็นวังพญานาคมาก่อน แต่ผู้สูงอายุในหมู่บ้านบอกว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ รู้แค่จุดนี้เป็น ห้วยปุ่ง เป็นน้ำผุดจนแหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านมาตักดื่มกิน ตนจึงเชื่อว่าจุดนี้คือวังพญานาคมาก่อน

จากนั้น ลุงพลพาผู้สื่อข่าวชมพญานาค และอธิบายถึงโครงสร้างต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยระบุว่า ช่วงนี้ช่างงดการก่อสร้างไว้ก่อน เพราะรอให้ปูนแห้งเพื่อเตรียมทาสี แต่หากมีคำสั่งทุบหรือให้รื้อถอนก็พร้อมทำตามคำสั่ง แต่อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่จะรื้อไปไว้ที่ไหน ส่วนตัวก็คงรู้สึกเสียใจ เพราะตั้งใจสร้างมานาน ทีมข่าวสังเกตว่าระหว่างการสัมภาษณ์ ก็มียูทูเบอร์มาถ่ายทอดสดอยู่ตลอดเวลา รวมถึงได้นำป้ายไวนิลที่มีรูปลุงพลโฆษณาสินค้า พยายามวางไว้ฉากหลังขณะสัมภาษณ์ และคอยถือตามไปวางไว้ด้านหลังลุงพล เมื่อเปลี่ยนจุดสัมภาษณ์ โดยหลังจากนำทีมข่าวไปเยี่ยมชมพญานาคแล้ว ลุงพลและเหล่ายูทูเบอร์ ก็ได้เริ่มเคลื่อนย้ายศาลาหน้าบ้าน ตามคำสั่งของกรมทางหลวง โดยย้ายไปอยู่ข้างบ้านแทน เนื่องจากเดิมทีศาลานั้นอยู่ใกล้ถนนจนเกินไป

กรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เตรียมเข้าพื้นที่บ้านลุงพล เพื่อจะบังคับด้วยกฏหมายบุกรุกพื้นที่ป่า และสร้างพญานาคข้างบ้านนั้น ตาชาญ หลาบโพธิ์ ตาของน้องชมพู่ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงต้องขอให้ทุบพญานาคทิ้ง ตนอยากให้เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ อยากให้เก็บเอาไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ดู อยากให้เป็นเอกลักษณ์ของชาวกกกอก อยากให้เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน พร้อมทั้งขอให้เลิกแกล้งชาวบ้านเสียที โดยองค์พญานาคของลุงพลก็ไม่ได้สร้างเพื่อส่วนตัว ซึ่งสร้างแล้วก็เพื่อจังหวัดและอยากจะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว หากทุบทำลายตนก็เสียดาย ขอร้องและวอนไปยังหน่วยงานป่าไม้ ไม่ให้มีการทุบพญานาคของชาวบ้านได้หรือไม่

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ตาชาญ ยังบอกอีกว่า ส่วนตัว ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมาทำไมไม่มีการตรวจสอบ แต่ทำไมวันนี้ถึงเข้ามาตรวจสอบหลายอย่าง และการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องของการรื้อถอนร้านค้า หรือการกำหนดแนวเขตถนน ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเข้ามาดำเนินการ แต่วันนี้เข้ามาขอให้ชาวบ้านขยับร้าน

ดังนั้นถ้าเจ้าหน้าที่ต้องการที่จะช่วยเหลือประชาชนจริง ให้ซ่อมแซมถนนหรือจุดที่เป็นหลุมเป็นบ่อจะได้หรือไม่ หรือแม้แต่อำนวยความสะดวกในด้านอื่น ๆ จะมาจ้องจับผิดและทำลายความรู้สึกชาวบ้านแบบนี้ทำไม สำหรับกรณีนายอภิชาติ เมืองโคตร หัวหน้าหมวดทางหลวงดงหลวง แขวงทางหลวงมุกดาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่หมู่บ้านกกกอก บริเวณหน้าบ้านนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ลุงของน้องชมพู่ เพื่อวัดระยะห่างสิ่งปลูกสร้างกับเส้นแบ่งกึ่งกลางถนน โดยเฉพาะจุดที่ตั้งศาลเจ้าแม่โสรภี ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตั้งไม้มะค่าแต้บูชา และตลาดหน้าบ้านลุงพล พบว่าศาลเจ้าแม่โสรภีไม่ล้ำเขตทางหลวง

จึงขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้า ถอยห่างจากเส้นกึ่งกลางถนน 9 เมตร เส้นสีเหลือง กลางถนน ให้พ้นเขตทางภายใน 15 วัน ซึ่งหากปฏิบัติตามจะไม่ออกเป็นเอกสารแจ้งเตือน และหากยังไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามกฎหมาย

และล่าสุด หลังจากที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวนายไชย์พล ไปโรงพัก ลุงพลรอดคุ ก คดีสร้างรูปปั้นพญานาค (27 ม.ค.2564) จากกรณีตำรวจ ปทส. และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เชิญตัวนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ไปที่ สภ.กกตูม ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ โดยผู้เกี่ยวข้องในคดีใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงในการทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา คือมาตรา 14 กรณีรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ ทำให้เสื่อมเสียสภาพป่าสงวน

หากบุกรุกพื้นที่ไม่เกิน 25 ไร่ มีอัตราโทษจำคุกต้งแต่ 1-10 ปี ความผิด พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 55 กรณีก่อสร้าง แผ่วถางป่า และเข้าไปครอบครองป่าที่ถูกแผ่วถาง มีอัตราโทษจำคุ กตั้งแต่ 2-15 ปี รายงานข่าวแจ้งว่าลุงพลยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนของ สภ.กกตูม อยู่ระหว่างพิจารณาคำร้องโดยคาดว่าลุงพลน่าจะได้รับการประกันตัวกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก และได้รับการประกันตัวออกมาจำนวนเงิน 100,000 บาท

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์