จับโป๊ะลุงพล หลังเผยมีเครื่องดังฟังอยู่บนรถ

จับโป๊ะลุงพล หลังเผยมีเครื่องดังฟังอยู่บนรถ

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.64 นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าไปช่วยเหลือคดี ตั้งแต่ที่มีการร้องเรียนเรื่องคลิปเสียงของเพจหมอปลาที่ปล่อยออกมา แล้วนำไปยื่นให้กับผู้บังคับการ จ.มุกดาหาร ตนยืนยันว่าลุงเป็นผู้บริสุทธิ์ และเข้าใจลุงที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และสังคมเข้าใจผิดว่าเป็นผู้กระทำ ตนเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ จึงรู้ว่าเป็นเช่นไร จึงเข้าไปช่วย เพราะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี และลุงไม่มีใคร จึงทำให้เราเข้าถึงกัน และเชื่อใจกันมา ลุงพลโดนตัดต่อภาพ โพสต์ลงในโลกโซเชียลฯ ตนก็เป็นคนพาลุงพลไปแจ้งความที่ ปอท. ตนอยู่เคียงข้างลุงพลมาโดยตลอด

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

แต่มาวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ลุงพลมีคนอยู่รอบข้างมากมาย มีคนรักมากมาย มีคนที่ให้คำแนะนำมากมาย มีคนอยากช่วยลุงมากมาย ตนจึงเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง รวมทั้งแฟนคลับลุงก็อยากให้ทนายความท่านอื่นมาดูแล ตนก็ไม่ติดขัดอะไร และหวังว่าลุงพลจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จนผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้

ส่วนเหตุผลที่ตนต้องตัดสินใจยุติบทบาทที่ปรึกษาให้กับลุงพล เนื่องจากวันที่ 9 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปบ้านลุงพล เพื่อไป สภ.กกตูม กับน้องโอม และน้องน้ำมนต์ เพื่อไปพบพนักงานสอบสวน เมื่อไปถึงจึงคุยกับลุงพลและป้าแต๋น ถึงวันที่ไปเข้าเครื่องจับเท็จ ทั้งคู่จึงเปิดเผยความรู้สึกหลังเข้าเครื่องจับเท็จ ซึ่งตนไม่ได้เดินทางไปด้วยเพราะไม่สบาย แต่โทรคุย แนะนำตลอดเวลา จนกระทั่งแฟนคลับลุงพล หาว่าทิ้งลุงพลบ้าง ไปอยู่ฝั่งหมอปลาบ้าง แต่วันนั้นตนไปช่วยเรื่องคดีของหมอปลา

เมื่อหมอปลากับลุงพลมีเรื่องที่ไม่สบายใจกัน และแยกออกจากกัน แฟนคลับก็แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย สุดท้ายก็มากดดันตน เหมือนพยายามให้ตนเลือกข้าง แต่เลือกไม่ได้ ตามจรรยาบรรณของทนายความ แฟนคลับก็กล่าวหาว่าตนเป็นนกสองหัวบ้าง เป็นสายสืบบ้าง เป็นไส้ศึกบ้าง ประเด็นที่ตนตัดสินใจยุติบทบาท เพราะได้แนะนำให้ลุงพล ป้าแต๋น เปิดใจคุยกันกับหมอปลา และพี่น้ำฟ้า เรื่องเครื่องดักฟัง ตนก็แนะนำว่าเป็นเครื่องจีพีเอส ไม่ใช่เครื่องดักฟัง ในเครื่องมีซิมการ์ด สามารถตรวจสอบได้ แต่ลุงบอกว่าไม่อยากตรวจ ตนจึงแนะนำให้ลุงป้าไปคุยกับหมอปลา จะได้หมดความสงสัยกันและกัน เพราะนี่คือสาเหตุที่ลุงพลระแวงหมอปลากับน้ำฟ้า จนนำไปสู่การถอดกล้องวงจรปิดที่บ้านออก ทั้งในรถลุงพลด้วย

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

การทำงานจึงเริ่มลำบากขึ้นในฐานะที่ปรึกษา จึงบอกกับลุงว่า โอกาสที่ลุงจะถูกหมายจับ และตกเป็นผู้ต้องหามีโอกาสสูง ดังนั้นต้องสามัคคีกันไว้ และให้รีบไปคุยกับหมอปลากับพี่น้ำฟ้า เพราะศึกนอกกำลังจะมา ดังนั้นอย่าเปิดศึกกันเอง ให้รักสามัคคีกันไว้ หลังจากนั้นวันที่ 10 ม.ค.64 ตนจึงเดินทางกลับบ้าน ซึ่งตนก็โดนทั้งแฟนคลับทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนจึงกลับมาถามตัวเองว่า ช่วยลุงพลแล้วได้อะไร กระทั่งวันที่ตนกลับบ้าน ป้าแต๋นช่วยค่าน้ำมันมา 3,500 บาท ซึ่งตนบอกว่าถ้าเป็นค่าจ้างไม่รับ แต่ป้าบอกว่าช่วยค่าเดินทางจึงรับไว้ ในขณะที่กำลังขับรถระหว่างกลับบ้าน ยอมรับว่าถึงขั้นเสียน้ำตา ถามตัวเองว่าทำเพื่ออะไรอยู่ หลังจากนี้จะติดตามหาข้อเท็จจริงว่า เครื่องดักฟังเป็นของใครกันแน่ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเรื่องนี้จะได้กระจ่าง

ส่วนการเจอเครื่องดักฟัง สาเหตุที่ตนไม่ต้องการสืบหาเจ้าของ เพราะมองว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีชมพู่ ซึ่งตนก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องเครื่องดักฟังด้วย ผมปล่อยวางเเล้ว"ทั้งนี้กรณีที่ในวันที่ 14 ม.ค.64 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ ออาชญากรรม จะเดินทางมาบ้านกกกอก เเล้วจะเข้าเยี่ยมพูดคุยกับพ่อเเม่ชมพู่นั้น ลุงพล กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้หากนายอัจฉริยะ เดินทางมาบ้านกกกอก ก็ขอเชิญมาที่บ้านตนด้วย เพราะมีเรื่องอยากพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ยูทูเบอร์คนใกล้ชิดลุงพล

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

ยืนยันไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องดักฟัง ถามกลับ ผมจะทุบหม้อข้าวตัวเองทำไม ลั่น คนใส่ร้ายมีเป้าหมายเกาะกระเเส เพราะผมเป็นคนดัง" จากกรณีพบเครื่องดักฟังในรถของลุงพล ต่อมาโซเชียลฯ ก็ออกมาเเฉว่าเป็นของยูทูเบอร์คนใกล้ชิด เจ้าของวลี จะเอาลุงผมไปไหน จากกรณีเหตุการณ์ขวางรถตำรวจ ในวันที่ลุงพลกับป้าแต๋นเข้าเครื่องจับเท็จ

หมอปลา เผยลุงเคยเช็คซิมเครื่องดักฟัง ก่อนอ้างว่าซิมหาย แนะไปแจ้งความ ถ้าไม่แจ้งลุงเป็นคนใช้ไม่ได้ น้อยใจถูกติ่งลุงหาว่าหมอปลาแอบติดตั้ง ถามถ้าลุงยังรัก และเคารพ อย่าดีแต่พูด คนเคารพกันเขาไม่ทำแบบนี้ นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา อยากฝากถึงลุงพล และแฟนคลับลุงพล ว่าต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่เอาเครื่องดังฟังแอบมาติดตั้งในรถ เพราะคนแบบนี้ใช้ไม่ได้ แต่วันนี้ลุงบอกว่าซิมหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลุงพลเคยบอกว่า เคยมียูทูเบอร์เอาซิมไปเช็กด้วยการใส่มือถือ แล้วโทรเข้าอีกเครื่อง

แสดงว่าลุงพลต้องเรื่องแฟนคลับของลุงพลที่กล่าวโจ มตีนั้น ตนอยากถามกลับว่า ถ้าตนแอบซ้อนเครื่องดักฟังตนจะได้ประโยชน์อะไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนปกป้องลุงพลมาโดยตลอด ลุงพลลองคิดดู ลุงพลต้องไปแจ้งความ ไม่อย่างนั้นลุงพลจะเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ เพราะคนทั้งประเทศอยากรู้ว่า ใครดักฟังลุง และที่ลุงบอกว่ายังรัก และเคารพตนและภรรยาของตน อยากบอกว่าลุงอย่าดีแต่พูด อยากให้ลุงลองทำให้ดู สิ่งที่ลุงทำไม่ได้เรียกเคารพ แต่เขาเรียกว่า ยางลบ คนที่เคารพกันเขาไม่ทำแบบนี้งรู้หมายเลขของซิมอันนั้น อย่าบอกว่าวันนี้จำเบอร์นั้นไม่ได้

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ