เชียงรายผวา พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 9 ราย

เชียงรายผวา พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 9 ราย

วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลาง จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พร้อมด้วยนายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เขียงราย นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.เชียงราย

ว่าล่าสุด จงเชียงรายมีการตรวจพบผู้เชื้อรายใหม่จำนวน 9 ราย เป็นกลุ่มหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปีต้น ซึ่งทำงานในโรงแรม 1G1 (วันจีวัน) จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และได้เดินทางผ่านเข้ามาในประเทศไทยตามช่องทางด่านพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มียอดผู้ป่วยระลอกใหม่สะสมรวมเป็น 20 คน

โดยนายประจญกล่าวว่า การตรวจพบผู้ติดเชื้อทั้ง 9 รายไม่ได้เหนือความคาดหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ทาง จ.เชียงราย มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวน 11 ราย พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อจากโรงแรม 1G1 ถึง 10 ราย ส่วนอีก 1 รายก็ติดจากกลุ่มที่ลักลอบข้ามมาจากพื้นที่เดียวกัน

จึงมีการประสานผ่านคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่น(ทีบีซี) ไทย-เมียนมา ขอนำตัวกลุ่มเป้าหมายคนไทยที่ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงแห่งนั้นกลับประเทศ จนมีการเข้ามาอีก 16 ราย เมื่อตรวจก็พบว่าติดเชื้อจำนวน 9 รายดังกล่าว เพราะทำงานที่เดียวกันและนอนที่เดียวกันทำให้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์จะติดเชื้อได้

กลุ่มที่เหลือก็ยังต้องรออาการในศูนย์กักกัน ซึ่งก็ยังเป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ แต่ก็ไม่ได้กระจายไปยังกลุ่มอื่น หลังจากเข้าประเทศทางคณะกรรกมาควบคุมโรคดติดต่อ จ.เชียงราย ก็ควบควบคุมไว้ในสถานที่กักกันที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวด ไม่เดินทางออกนอกเส้นทางหรือหลบหนีเหมือนเคสอื่นก่อนหน้านี้

โดยทางจังหวัดก็จะยังคงการประสานให้คนไทยที่คงค้างกลับมาทั้งหมดเพื่อเข้าสู่ระบบการคัดกรองต่อไป ปัจจุบันมีการวางกำลังป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอย่างแน่หนาตลอดแนวชายแดน จึงยังคงรอรับผู้ที่จะเดินทางกลับมาอยู่และที่ผ่านมาก็มีคนเดินทางกลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก รวมทั้งหมด 171 ราย ทั้งที่รักษาตัวอยู่และอยู่ในศูนย์กักดูอาการทั้งนี้ทาง จ.เชียงราย

นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่าผู้ติดเชื้อ 11 รายกลุ่มแรกแบ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมายและที่สัมผัสผู้ติดเชื้อจำนวน 6 ราย และอยู่ในส่วนศูนย์กักกันและ State Quarantine ของจังหวัดจำนวน 5 ราย ในส่วน 9 รายล่าสุดก็เป็นการตรวจพบที่เข้ามาในระบบ State Quarantine ทั้งหมด กลุุ่มนี้จึงไม่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะแพร่กระจาย เพราะอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ต้นไม่ได้ไปสัมผัสหรือไปเกี่ยวยุ่งกับบุคคลอื่น มีความมั่นใจในการควบคุมการแพร่ระบาดได้

ซึ่งการตรวจพบผู้ติดเชื้อไม่ได้เป็นความน่าวิตกแต่ถือเป็นความสำเร็จที่สามารถนำผู้ติดเชื้อมาเข้าระบบเพื่อทำการควบคุมและรักษาได้ ไม่ได้ปลอ่ยให้ลักลอบและนำเชื้อไปแพร่ยังพื้นที่อื่นๆ ขณะที่กรณีพบผู้ที่่ติดเชื้อในเขต อ.เมืองเชียงราย 1 รายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหากลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้จำนวน 22 ราย เพราะได้ตระเวนไปเที่ยวงานในสิงห์ปาร์คและสถานบันเทิงต่างๆ อีกหลายแห่ง ทำให้มีกลุ่มผู้เสี่ยงต่ำกว่า 200 ราย แต่ผลการตรวจหาเชื้อพบว่ากลุ่มเสี่ยงมีผลเป็นลบทั้งหมด

ทั้งนี้ขอให้ทุกคนทำตามมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้โควิดกลับมาแพร่ระบาดได้อีก หากมีพบว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้กักตัวเพื่อดูอาการ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับผู้อื่น

เรียบเรียง mumkhao

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ