เมื่อวันที่ 22 พ.ย.63 เวลา 21.00 น. ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ชุมชนบ้านบาก ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จึงรุดออกตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพศิลานคร ถึงจุดเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตรวจสอบพบศพหญิงสูงอายุ นอนเสียชีวิต บริเวณภายในบ้านชั้น 1 มีแผลฉีกขาดบริเวณคิ้วข้างขวา ไม่มีชีพจร เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ทราบชื่อคือนางกองศรี พิมวงค์ อายุ 85 ปี ภูมิลำเนา 73 ม.4 ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่จึงนำร่างผู้เสียชีวิตไปทำการชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลเสลภูมิ เพื่อหาสาเหตุในการเสียชีวิตที่แท้จริง

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลานชายของผู้ตาย ได้ไปขอเงินแม่จำนวน 80 บาท เพื่อจะไปซื้อสุรามาดื่มกิน แต่แม่ไม่ให้จึงได้ลงมือทุบตีแม่ จนแม่ต้องวิ่งหนีรอดเอาชีวิตออกมาจากในบ้าน จนทำให้ลูกชายเกิดโมโห จึงปรี่เข้าไปทำร้ายยายที่นอนที่ภายในบ้าน

โดยใช้เท้ากระทืบไปที่ร่างของยายหลายครั้ง จนนอนแน่นิ่งเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นหลานชายของผูตายไม่ได้หลบหนีไปไหน เนื่องจากมีอาการเมาสุราร่วม จึงนอนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมตัวก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม

ล่าสุดวันที่ 23 พ.ย.63 เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ธนิต ดวงกลาง ผกก.สภ.เสลภูมิ พร้อมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน สภ.เสลภูมิ ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ บ้านพักหลังหนึ่งในชุมชนบ้านบาก จุดเกิดเหตุเป็นบ้านพักปูนชั้นเดียว ภายในบ้านแบ่งเป็น 2 ห้อง โดยห้องจุดเกิดเหตุจะอยู่ซีกซ้ายของตัวบ้าน โดยระหว่างเกิดเหตุผู้ตายได้นอนอยู่บนเสื่ออยู่มุมของบ้าน ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ดื่มสุราขาว 2 ขวดเล็ก และเสพยาบ้า 1 เม็ดครึ่ง ก่อนจะเมาอาละวาดเพราะขอเงินแม่ไม่ได้ จึงไล่ทำร้ายแม่โดยใช้มือกระชากผมแม่

หลังจากนั้นแม่จึงวิ่งหนีไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ก่อนที่ผู้ต้องหาจะใช้เท้าเตะที่ใบหน้าและศรีษะนางกองศรี (ผู้ตาย) จำนวน 3 ครั้ง ซึ่งเป็นยายของผู้ต้องหาและผู้ป่วยติดเตียง เป็นโรคความดันโลหิตสูง แขนขาอ่อนแรง และโรคชรา ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จนเสียชีวิต

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้านได้เข้าระงับเหตุในเวลาต่อมา ซึ่งก็พบว่าผู้ตายนอนแน่นิ่งเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน และข้างๆกันพบผู้ต้องหานอนอยู่ใกล้กับผู้ตาย จึงเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ สภ.เสลภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย

สอบถามนางทองวัน พิมพ์วงค์ อายุ 53 ปี แม่ผู้ต้องหาเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนและแม่ได้ระเหดระเหเร่ร่อน ไปอาศัยอยู่กับญาติ ในพื้นที่ ต.กลาง อ.เสลภูมิ มาประมาณ 2 ปี พึ่งกลับมาอยู่บ้านช่วง พ.ย.62 เนื่องจากยายป่วยหนัก ความดันสูง โรคชรา ก่อนเกิดเหตุวานนี้ลูกชายได้ขอเงิน 300 บาท เมื่อเวลา 10.00 ไปซื้อเหล้ามากิน หลังจากนั้งมากรอกข้าวขึ้นยุ้งฉาง ก่อนจะขนข้าวเข้ามาในบ้าน แล้วก็เงิน 100 บาท อีก 2 รอบ แม่เลยให้เป็นรอบสุดท้าย หลังจากนั้นได้ให้แม่ไปซื้อไม้ขีดไฟที่้รานค้า

โดยบอกกับแม่ว่าจะซื้อมาเผากระดาษในห้องน้ำ ซึ่งหลังจากนั้นลูกชายได้ออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะมาทะเลาะกับแม่ แล้วตะคอกใส่แม่ว่า วันนี้จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งตาย ก่อนจะเดินปรี่เข้ามากระชากผมแม่ บังคับขู่เข็ญให้แม่หาเงินมาเพื่อจะไปซื้อเหล้า โดยหลังจากนั้นได้ไปถือมีดอีโต้มาจะไล่ทำร้ายแม่ แม่เลยวิ่งหลบหนีไปหา ผญบ. นายบุญทัน พิมพ์วงค์ ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ แต่ในระหว่างนั้นผู้ต้องหาก็อาละวาดอยู่ภายในบ้าน ก่อนที่ ผญบ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้างับเหตุ แต่ก็พบว่ายายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงรุดเข้าตรวจสอบภายในบ้านพบว่าผู้ต้องหานอนอยู่ในบ้านไม่ได้หลบหนี

สอบถามผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากนางทองวันว่าลูกชายเมาอาละวาดมีอาวุธมีด วึ่งภายในบ้านมียายที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ด้วย ตนก็เข้าไปถึงแค่บริเวณหน้าบ้าน เพราะไม่กล้าที่จะเข้าไประงับเหตุเพราะผู้ต้องหามีอาวุธในมือ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจึงเข้าไประงับเหตุซึ่งก็พบว่ายายนอนแน่นิ่งมีเลือดกลบปาก และใบหน้ามีแผลฉีกขาดที่บริเวณคิ้วขวา ใกล้กันพบผู้ต้องหานอนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายบุพการีจนถึงแก่ความตาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ก่อนคุมตัวดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

ขอบคุณ jangkhao