ตร.ออกหนังสือแจงปมน้องชมพู่ จ่อสรุปผล ชันสูตร

ตร.ออกหนังสือแจงปมน้องชมพู่ จ่อสรุปผล ชันสูตร

จากกรณี น้องชมพู่ เด็กหญิง 3 ขวบ หายตัวไปจากบ้านพักใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นาน 4 วัน ก่อนพบเป็นศพเสียชีวิตปริศนาสภาพเปลือย ห่างจากบ้านพักไปหลายกิโลเมตร โดยผลชันสูตรศพจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งทางแพทย์ได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด และรอผลยืนยันอีกครั้ง ขณะที่ล่าสุดมีคนในหมู่บ้านออกมาให้ข้อมูลว่าสะดิ้งพี่สาวของน้องชมพู่ ถูกแม่สั่งให้พูดโกหกว่าวันเกิดเหตุที่น้องชมพู่หายตัวไป น้องสะอิ้งนอนหลับอยู่ นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกหนังสือรายงานผลความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ โดยระบุว่า 1.การชันสูตรศพพลิกศพของน้องชมพู่ฯนั้นทางพนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารรายงาน จากแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรจากโรงพยาบาลดงหลวง

จากโรงพยาบาล สรรพสิทธิ์ประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานีและแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำมาประกอบในคดีอาญาต่อไป โดยระหว่างนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเป็นการประสานข้อมูลกับ แพทย์ฯตามรายงานการตรวจศพ เบื้องต้นจากแพทย์ผู้ตรวจเท่านั้นซึ่งทางแพทย์ผู้ร่วมตรวจชันสูตรพลิกศพ น้องชมพู่ฯ จะได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อสรุปผลการชันสูตรอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

2.ขณะนี้ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จากวัตถุพยานทั้งหมด 101 รายการยังอยู่ระหว่างการตรวจหาสารพันธุกรรม DNA ทำการตรวจไปแล้ว 62 รายการ และโดยทำการเก็บตัวอย่างบุคคลเปรียบเทียบสารพันธุกรรม DNAจำนวน 115 ตัวอย่าง ทำการตรวจไปแล้ว 82 ตัวอย่าง

3.การสอบสวนปากคำบุคคลทั้งหมดเป็นการสอบสวนปากคำในฐานะพยานในคดีทั้งสิ้น โดยแบ่งเป็นการซักถามปากคำโดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวน 937 ราย (บุคคลภายในหมู่บ้านกกกอก จำนวน 278 รายบุคคลพ้นโทษใน จังหวัดมุกดาหาร สกลนคร และกาฬสินธุ์ จำนวน 478 รายบุคคลที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ เกิดเหตุ หมู่บ้านกกกอก จำนวน 181 ราย)และสอบสวนปากคำโดยพนักงานสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนจำนวน 63 ปากซึ่งยังไม่ได้มีการสอบสวนปากคำบุคคลใดในฐานะผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย แต่อย่างใด

4. ทั้งนี้ขอความอนุเคราะห์ความร่วมมือ จากสื่อมวลชนระมัดระวังในเรื่องการนำเสนอข่าวว่าจะมี การออกหมายจับบุคคลใด ๆในฐานะผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งยังไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เกรงว่าอาจจะกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล หรือชื่อเสียงของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้

5. ตามข้อ 2 นั้นทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชน ,อาสาสมัครต่างๆ ที่ได้ขึ้นภูเหล็กไฟไปยังจุดพบร่างน้องชมพู่ฯ ในวันที่ 14 พ.ค. ในการออกมาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเป็นการส่วนตัว โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินในทางปกปิดอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นจะต้องทำการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม หรือ DNA ของผู้ที่ได้ขึ้นไปที่ภูเหล็กไฟ เพื่อนำมาเปรียบเทียบคัดแยกออกจาก DNA ของบุคคลต้องสงสัย แต่มิใช่เป็นการตรวจเปรียบเทียบว่าเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่แต่อย่างใด

6.สมมุติฐานในการตั้งประเด็นการสืบสวนในทางคดีในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่อง เด็กเดินขึ้นไปแล้วเสียชีวิตเองบนภูเหล็กไฟได้หรือไม่ หรือเกิดจากการกระทำของบุคคลอื่น หรืออื่นๆ ล้วนเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนในการคลี่คลายคดี ทำความจริงให้ปรากฏต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และสังคมซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนยังไม่ได้ตัดประเด็นใดๆทิ้งไป ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลการรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนผลจากการชันสูตรพลิกศพและผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน

7.ส่วนที่มีการสัมภาษณ์บุคคลทั้งที่เกี่ยวข้องกับคดี และไม่เกี่ยวข้องกับคดีรวมถึงการนำเสนอเรื่อง ความเชื่อและไสยศาสตร์ก็เป็นแนวทางการนำเสนอข่าวสารสู่ประชาชน ซึ่งประชาชนควรได้โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมแต่ไม่ได้ส่งผล ต่อการชี้นำแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพราะทางคดีจะต้องใช้หลักในการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบ ทั้งนี้ที่ผ่านมากระบวนการสืบสวนสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความร่วมมือ จากชาวบ้านหมู่บ้านเป็นอย่างดี

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร อำเภอเต่างอย จ.สกลนคร อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้โปรดดำเนินชีวิตตามปกติต่อไปไม่ต้อง หวาดระแวงหรือตื่นตกใจกลัว ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะถูกเชิญตัวไปสอบสวนหรือถูกตั้งข้อสงสัยว่า

เป็นคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการไปตามกรอบแห่งกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนโดยเคร่งครัดจะไม่กระทำการใด ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด จึงขอความร่วมมือและทำความเข้าใจมา ณ.โอกาสนี้ หากพี่น้องประชาชนท่านใดมีเบาะแสเกี่ยวกับคดี หรือมีข้อกังวลใจใดๆสามารถติดต่อแจ้งข้อมูลได้ที่ พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร หมายเลขโทรศัพท์ 086 8634004 ได้

อ้างอิง

ขอบคุณ เดลินิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ