ชาวบ้านเผย ชายใส่เสื้อส้ม

ชาวบ้านเผย ชายใส่เสื้อส้ม

กินเวลาไปกว่า 56 วันเต็มสำหรับคดีน้องชมพู่ สังคมยังจับตามองและสงสัยว่าใครเป็นคนทำ ทำไมถึงได้แนบเนียนไม่ทิ้งหลักฐานอะไรเลย ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.ค.63 ทีมข่าว เดินทางมาพบนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ ยืนยันว่าช่วงเวลาที่ลูกหายไป ตนเองกำลังไถนาอยู่ โดยในวันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 07.30 น. ได้ขับรถไถคันสีส้มออกจากบ้าน เพื่อไปไถนาให้นางอุ่น เเละระหว่างที่กำลังไถอยู่นั้น เวลา 10.22 น. ได้รับโทรศัพท์จากเเม่ชมพู่ ว่าลูกหายไป

ทั้งนี้ตนเองจึงรีบขับรถไถคันดังกล่าวกลับบ้าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที เเล้วก็ออกตามหากับชาวบ้านจนถึงเย็น จากนั้นช่วงกลางคืนก็เดินตามหากับเเม่น้องชมพู่อีก เเต่จำช่วงเวลาไม่ได้ นายอนามัย ยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่มีพยานยืนยัน ว่าเห็นตนเองไถนาอยู่จริง ๆ ก็สบายใจขึ้น เพราะที่ผ่านมายืนยันว่าพูดความจริงมาโดยตลอด

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

อย่างไรก็ตาม เมื่อสรุปไทม์ไลน์ช่วงเวลาที่นายอนามัย ขาดพยานยืนยันว่าอยู่ที่ไหน คือ ช่วงเวลา 08.30 - 10.22 น. ส่วนช่วงเวลาอื่น ๆ มีพยานยืนยันได้ทั้งหมด นางอยู่ ใจเที่ยง อายุ 60 ปี พยานยืนยันว่า ช่วงเวลาที่น้องชมพู่หายไป เห็นพ่อน้องชมพู่กำลังไถนาอยู่ ในวันที่ 11 พ.ค.63 เวลาประมาณ 08.30 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อจะไปสวนยางพารา ไร่มันสำปะหลัง ระหว่างทางขี่รถผ่านทุ่งนาของนางอุ่น เห็นพ่อน้องชมพู่ขับรถไถสีส้มกำลังไถนาอยู่ ซึ่งถึงเเม้ว่าจะไม่ได้จอดดู แต่ตนก็จำได้แม่นว่าเป็นพ่อน้องชมพู่จริง ๆ ยืนยันว่าพูดความจริง ตนพร้อมที่จะเป็นพยานให้พ่อน้องชมพู่

นางอยู่ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนอยู่ด้วยความหวาดกลัว เพราะตำรวจยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ส่วนตัวเชื่อว่าคนร้ายต้องเป็นคนที่อื่น ไม่ใช่คนในพื้นที่ เพราะไม่เคยมีใครมีพฤติกรรมโหดร้ายเเบบนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ก็อยากให้คนร้ายตัวจริงออกมารับสารภาพเเละมอบตัวกับตำรวจ อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกเลย

นางดอกไม้ (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก ให้ข้อมูลอีกว่า ตนได้ยินชาวบ้านกกกอก เล่าต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ในช่วงเช้านายอนามัย พ่อของน้องชมพู่ ได้ไปไถนา และมีการสวมใส่เสื้อสีส้ม แขนสั้น ส่วนตัวแล้วตนก็สงสัยในตัวพ่อน้องชมพู่ ว่าจะตรงกับเสื้อสีส้มที่แก๊งจำปาให้ข้อมูลการแต่งกายของคนร้ายหรือไม่

ที่ตนให้สัมภาษณ์ในวันนี้ ตนไม่ได้กล่าวหาพ่อน้องชมพู่แต่อย่างใด ตนก็เป็นชาวบ้านคนหนึ่ง ตนมีสิทธิ์ที่จะสงสัย เพราะทุกคนในหมู่บ้านก็ล้วนแต่เป็นผู้ต้องสงสัยทั้งหมด สำหรับนายอนามัย เท่าที่ตนเองรู้จัก เขาจะเป็นคนไม่ค่อยพูด ถามคำตอบคำ แต่ก็เป็นคนปากหนักอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม นางดอกไม้ยังบอกอีกว่า ชาวบ้านกกกอกหลาย ๆ คน รู้ข้อมูลดี แต่เขาไม่ค่อยอยากจะพูดกัน บางคนเห็นเหตุการณ์จริง ๆ แต่พอเจ้าหน้าที่ไปสอบถาม เขาก็บอกว่าไม่เห็น

ส่วนในวันที่ 11 พ.ค.63 เวลาประมาณ 19.00 น. มีคนโทรศัพท์มาหาแม่และพ่อน้องชมพู่ว่า ให้ไปรับน้องชมพู่อยู่บ้านหลังหนึ่งที่ตีนเขาบ้านกกตูม จากนั้นพ่อและแม่น้องชมพู่ จึงได้พากันไปรับลูกตามสายโทรศัพท์ดังกล่าว

เมื่อตนรับสาย จากนั้นเสียงในสายก็เงียบไป ก่อนจะมีเสียงผู้ชายวันกลางคนพูดขึ้นมาว่า นุช นุช (นุชคือชื่อเล่น นางสาวิตรี) ตนจึงบอกชายในสายโทรศัพท์ว่า นุชไปรับลูกอยู่ค่ะ มีอะไรหรอคะ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ไม่พูดอะไรต่อ และชายคนดังกล่าวก็หัวเราะออกมา คล้ายคนกำลังสะใจ จากนั้นตนเองจึงกดวางโทรศัพท์ และมีการสอบถามชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร แต่ไม่มีใครรู้ข้อมูล หลังจากนั้น ป้าแต๋น ภรรยาลุงพล ก็ได้เดินเข้ามาถามว่าใครโทรมา ตนจึงให้ป้าแต๋นโทรศัพท์หาชายคนดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าวันนั้น ป้าแต๋นได้โทรศัพท์ไปที่เบอร์ปริศนาหรือไม่ สำหรับกรณีนี้ตนก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ ว่าตนเคยรับโทรศัพท์ชายปริศนารายนี้ จึงออกมาให้ข้อมูล

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

นอกจากเหตุการณ์วันที่ 11 พ.ค.63 แล้ว นางดอกไม้ยังบอกอีกว่า กลุ่มคนที่ขึ้นไปเจอศพน้องชมพู่ ในวันที่ 14 พ.ค.63 ได้เล่าต่อกันมาให้ตนฟังว่า มีชายปริศนาได้โทรศัพท์ขึ้นไปหาคนบนเขาภูเหล็กไฟ ที่อยู่กับศพน้องชมพู่ว่า อย่าทำให้เรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าชายในสายปริศนานั้นคือใคร และข้อมูลนี้ตนก็ได้ยินชาวบ้านเล่าต่อ ๆ กันมา ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน

ต่อมาทีมข่าว ได้สอบถามนายนรินทร์ หลาบโพธิ์ น้าชายของน้องชมพู่ ถึงกรณีที่นายนรินทร์ ได้โพสต์เฟชบุ๊กว่า ฝันเห็นน้องชมพู่ พร้อมกับภาพหลานสาวสวมใส่ชุดนักเรียน และมีข้อความว่า ขอบคุณหลานที่เข้าฝัน

คลิป

อดใจรออีกนิดครับเชื่อว่าคุณตำรวจทำงานกันอย่างเต็มที่อีกไม่นานได้เห็นโฉมหน้าคนร้ายแน่นอน

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ