วุ่นหนัก คนเห็นรถของเล่นชมพู่กลับคำ อ้างถูกขู่จากเพื่อน

วุ่นหนัก คนเห็นรถของเล่นชมพู่กลับคำ อ้างถูกขู่จากเพื่อน

ปิดไม่ลงจริงๆสำหรับคดีน้องชมพู่ กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่ยังเป็นปริศนาว่าใครฆ่า ซึ่งภายหลังมีพยาน 2 คน ได้แก่ นางแตงโม และนางชะอม ออกมาเปิดเผยอ้างว่าพบเห็นรถแบ็กโฮของเล่น ยังอยู่ที่หลุมจุดเกิดเหตุวันที่เด็กหายตัวไป หลังจากข่าวนำเสนอว่าเจ้าหน้าที่ไปพบรถของเล่นดังกล่าวอยู่ที่บนเขาภูเหล็กไฟ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 5 ก.ค.63 นางชะอม เปิดใจกับทีมข่าวว่า สำหรับกรณีที่ตนเคยให้ข่าว และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเจอรถแบ็กโฮ ที่บริเวณใต้ต้นมะม่วง ตนขอแก้ข่าวว่า ตนไม่ได้เห็นรถแบ็กโฮ ตามที่ตนเคยให้ข่าว

ทั้งนี้ที่ตนต้องให้ข่าว และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอย่างนั้น ก็เพราะว่าตนถูกนางแตงโมบังคับให้พูด โดยเมื่อประมาณวันที่ 1 ก.ค.63 ตนได้ไปให้ข้อมูลกับตำรวจที่ สภ.กกตูม พร้อมกับนางแตงโม แล้วนางแตงโมได้นั่งอยู่ข้าง ๆ ตน จากนั้นก็ใช้นิ้วมาหยิกที่สะโพกข่มขู่ตนหลายที ให้ตนบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเจอรถแบ็กโฮ และบอกตนอีกว่า รับสารรภาพไปเถอะ เดี๋ยวเรื่องก็จบเอง

วันนี้ตนจึงอยากออกมามาขอโทษสังคม ที่ตนเคยให้ข้อมูลเท็จตนก็รู้สึกเสียใจ ขอโทษทุกคนที่ดูข่าว ตนผิดพลาดไปแล้วที่ตนเชื่อฟังนางแตงโม เพราะตนถูกนางแตงโมข่มขู่ โดยการหยิกสะโพก ให้รับสารภาพว่าเห็นรถของเล่น ตนจึงไม่อยากผิดใจกับแตงโม ที่ผ่านมาตนก็นอนไม่หลับ เพราะให้ข่าวเท็จไป ทุกวันนี้ตนก็ไม่กล้าไปร่วมกลุ่ม หรือพูดคุยกับนางแตงโมอีกแล้ว ตนกลัวถูกข่มขู่ซ้ำอีก ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นางแตงโม นามสมมติ ชาวบ้านที่อ้างว่าเห็นเบาะแสรถแบ็กโฮของเล่น เปิดเผยว่า

ตนยังคงยืนยันว่าตนเห็นจริง ตนเป็นผู้ใหญ่คนแรกตรงนั้นที่เดินเข้าไปเจอช่วง 09.00 น. ตนเห็นครั้งเดียวแล้วไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นก็มีคนอื่น ๆ เข้ามา และบอกกับตนว่าเห็นรถแบ็กโฮ แต่หลังจากทีมข่าวไปสัมภาษณ์ทำไมถึงบอกไม่เห็น ซึ่งอาจจะเพราะขี้เกียจให้สัมภาษณ์ เนื่องจากทำให้เสียเวลาทำงาน จึงทำให้ปฏิเสธ กรณีนางชะอม นามสมมติ คน ๆ นี้ตนไม่รู้ว่านางชะอมเห็นจริงไหม แต่นางชะอมบอกกับตนว่าเห็น ซึ่งนางชะอมเข้ามาหลังจากตน โดยเข้ามากับชาวบ้านเป็นกลุ่ม เมื่อเริ่มผ่านไปมีข่าวเรื่องรถแบ็กโฮไปอยู่ที่บนเขา ก็มาคุยกันว่าเธอก็เห็น ฉันก็เห็น ซึ่งนางชะอม มาพูดกับตนว่าเห็นจริง ๆ

ทีมข่าวจึงแจ้งนางแตงโมว่า นางชะอม ออกมากลับคำให้การว่าไม่ได้เห็น และอ้างว่าถูกนางแตงโมบังคับ นางแตงโม ตอบว่า ตนยังคุยกับนางชะอม ในวันที่ไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ โดยตนบอกว่า แล้วแต่เธอ ตนไม่ได้บังคับ ยอมรับว่าตนมีการสะกิดนางชะอมจริง แต่ตนพูดว่า แล้วแต่เธอ แล้วแต่ความคิดเธอ

ซึ่งตนพูดส่วนของตน ตนก็ให้นางชะอมพูดในส่วนของเขา ตนเองยืนยันว่าตน ไม่ได้บังคับ ตอนที่ตนไปเห็นแบ็กโฮ ยืนยันว่าไม่มีใครมาดูกับตน ตนเดินไปก่อนคนเดียว แต่นางชะอมกับชาวบ้านคนอื่น ๆ เข้ามาทีหลัง ตนก็เห็นว่าเขาเดินเข้ามา และมาคุยกับตนว่าเห็นแบ็กโฮเหมือนกัน โดยนางชะอม ยังบอกว่า เห็นรถสิบล้อของเล่นด้วย ซึ่งตนไม่เห็นรถสิบล้อ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่กลับคำให้การ ตนไม่กังวลว่าคนจะมองว่าตนกุเรื่อง ส่วนใครจะพูดอย่างไร จะเห็นหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ตนไปบังคับไม่ได้

หากตำรวจจะมาถาม ตนยังยืนยันคำเดิมว่าตนเห็นแบ็กโฮจริง ๆ แต่ไม่รู้ใครเอาไป ไม่รู้ใครหิ้วไป ตนยังคิดในใจหลังจากเดินไปดูตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนคิดว่า รถแบ็กโฮอยู่ตรงนี้ ชมพู่คงไม่ไปไกล ตอนนั้นน้องสะดิ้งก็เดินไปหาจุดอื่นแล้ว กรณีจดหมายข่มขู่ ตนก็ยืนยันว่าวางอยู่จุดแคร่หน้าบ้าน มีขวดน้ำที่กินแล้ว เป็นขวดที่ตนเอามาจากโรงพัก แล้ววางไว้ที่แคร่หน้าบ้าน ตนจำได้ว่าฝาสีฟ้า ยี่ห้อจำไม่ได้ เพราะปกติชาวบ้านไม่ค่อยกินน้ำแบบนี้ จะเพิ่งมีก็ช่วงมีงานศพน้องชมพู่ ส่วนตัวไม่เครียด เพราะตนแจ้งความแล้ว ใครจะกลับคำ ใครจะปฏิเสธ ก็แล้วแต่คนนั้น ๆ แล้วแต่เธอ ความพอใจของเธอ

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ