ชาวบ้านกกกอก เลิกค้นหาเสื้อน้องชมพู่ที่ยังหาไม่เจอทันที หลังได้ยินคำพูดของคนเป็นแม่

ชาวบ้านกกกอก เลิกค้นหาเสื้อน้องชมพู่ที่ยังหาไม่เจอทันที หลังได้ยินคำพูดของคนเป็นแม่

เรียกได้ว่า 54 วันกับคดีน้องชมพู่ยังไม่สามารถจับคนกระทำผิดได้ ทำให้คดีนี้เป็นที่สนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 กระทั่งพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. นั้น

สืบเนื่องจากที่นางตะไคร้ ชาวบ้านในพื้นที่ รบุว่า เมื่อตอนเย็นวันที่ 11 พ.ค.63 พ่อแม่น้องชมพู่พร้อมญาติรวม 9 คน ได้ไปหาตัวน้องชมพู่ที่ภูเหล็กไฟแล้วรอบหนึ่ง ถึงประมาณ 01.00 น. เขาก็ลงมา จากนั้นนายอนามัยและนางสาวิตรีขึ้นไปตามหาน้องชมพู่ที่ภูเหล็กไฟอีกรอบ ชาวบ้านสงสัยว่าทำไมมีคนมาบอกว่าเจอรองเท้าน้องชมพู่ แล้วพ่อแม่ไม่ขึ้นไปหานั้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

วันที่ 4 ก.ค. 63 นายอนามัย และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อแม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 11 พ.ค. 63 นางสาวิตรีหาชมพู่ถึงช่วง 17.00ถึง18.00 น. จากนั้นก็พัก ส่วนสามีออกไปค้นหาต่อช่วง 20.00 น. ออกไปราว 10 คน และเดินไปทางภูเหล็กไฟ ขึ้นเขาไปได้ไม่ไกลมาก และกลับมา 01.00 น. ก่อนจะประชุมถึง 02.00 น. และแยกย้ายกลับ

ต่อมาวันที่ 12 พ.ค. 63 ช่วงเช้าแม่ก็ออกไปค้นหาชมพู่ โดยเดินไปตามทางเดิน ไม่ได้เข้าป่า เพราะเข้าใจว่าชมพู่คงไม่เดินเข้าป่า อย่างไรก็ตามช่วงเวลาตนเองไม่แน่ชัด เพราะนานแล้ว ตนไม่กล้ายืนยันเวลา สิ่งหนึ่งพูดได้คือช่วงกลางคืนตนเองไม่ได้ออกไปหาชมพู่กับสามี และพ่อไปดึกสุดแค่วันที่ 11 พ.ค. 63 คืนเดียวเท่านั้น ส่วนที่มีคนออกมาให้ข้อมูลว่าพ่อแม่อาจจะออกไปตอนกลางคืน และกล่าวหาว่าก่อเหตุ ตนเองไม่ได้สนใจ มองว่าช่วงเวลาที่ชมพู่หายคือ 8.50ถึง9.10 น. น่าจะเป็นเวลาที่สำคัญที่สุด และมีไทม์ไลน์ชัดเจน ซึ่งตนไม่สนใจคนสงสัยว่าตนจะฆ่าลูก ถ้าทำจริงคงถูกจับไปนานแล้ว

นายโพน ชัยมะโย ชาวบ้านที่ร่วมค้นหาน้องชมพู่ เมื่อเย็นวันที่ 11 พ.ค. 63 เล่าว่า เวลา 19.00 น. ตนเองพร้อมกับชาวบ้านรวม 7 คน รวมถึงพ่อน้องชมพู่ ออกตามหาน้องชมพู่เดินเท้ารอบหมู่บ้าน ตั้งแต่สวนมันของยายจำลองถึงป่าหลังโรงเรียนกกกอก แต่ก็ไม่เห็นน้องชมพู่ กระทั่งเวลา 01.00 น. หยุดภารกิจค้นหาและพากันกลับบ้าน โดยการค้นหาไม่มีแม่น้องชมพู่ไปด้วย และตนเองก็ไม่รู้ว่าหลังจากที่พวกตนหยุดคนค้นหาตั้งแต่เวลา 01.00 น. แล้ว หลังจากนั้นนายอนามัย และนางสาวิตรีจะไปค้นหาลูกตามลำพังตามที่ชาวบ้านลือหรือไม่ ยืนยันว่าพวกตนไม่ได้ค้นหาที่เขาภูเหล็กไฟ แต่พวกตนแค่ค้นหาบริเวณรอบหมู่บ้านเท่านั้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

นายไชย์พล วิภา ลุงน้องชมพู่ เปิดเผยว่า กรณีการถูกสงสัยเรื่องครอบครัวชมพู่ว่ามีการออกไปค้นหาชมพู่แล้วไปเคลื่อนย้ายศพเอง ตนเองหรือไม่ ตนไม่มีความเห็นเรื่องนี้ เป็นมุมมองของแต่ละคน ส่วนตนเองส่วนใหญ่ไปหาหมอธรรม ไม่ได้สังเกตพ่อแม่ชมพู่ ตนเองรู้ว่าพ่อแม่เขาเป็นทุกข์มาก

นางปุ๊กลุ๊ก (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า หลังจากวันที่เจอศพน้องชมพู่ วันที่ 14 พ.ค. 63 พวกตนก็ได้ร่วมค้นหาเสื้อกล้ามสีขาวลายการ์ตูนของน้องชมพู่ ที่ยังหาไม่เจอ ครอบครัวของน้องชมพู่ก็ได้บอกกับชาวบ้านที่ค้นหาเสื้อว่า ถ้าใครหาเสื้อเจอ คนนั้นคือฆาตกร ส่วนตัวแล้วตนเองก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมเขาถึงห้ามพวกตนค้นหาเสื้อ แต่พวกตนก็พูดอะไรมากไม่ได้ จากที่ชาวบ้านอยากหาเสื้อ และหาหลักฐานช่วยเจ้าหน้าที่ ก็ต่างพากันกลัวว่าถ้าใครหาเสื้อเจอจะเป็นฆาตกร บ้างก็ไม่มีกำลังใจหาหลักฐาน

หลังจากนั้นตนและชาวบ้านก็ไม่ได้ขึ้นไปหาหลักฐานอีก ปล่อยให้เป็นงานของเจ้าหน้าที่ สำหรับตนที่เป็นชาวบ้านที่ร่วมค้นหาหลักฐาน ก็รู้สึกหมดกำลังใจอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วครอบครัวน้องชมพู่เขาอยากให้เจอเสื้อหรือว่าเขาไม่อยากให้หาเสื้อเจอกันแน่ หรือคิดอีกแง่มุม เขาก็อาจอยากให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ นการตามหาหลักฐานก็เป็นไปได้

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ