คุณตาขับแท็กซี่ที่โดน หนุ่มหัวร้อน คว้าหมวกกันน็อกฟาด ชีวิตความเป็นอยู่ล่าสุด ผิดคาดมาก

คุณตาขับแท็กซี่ที่โดน หนุ่มหัวร้อน คว้าหมวกกันน็อกฟาด ชีวิตความเป็นอยู่ล่าสุด ผิดคาดมาก

จากกรณีคลิปหนุ่มหัวร้อนฟาดไม่ยั้งลุงขับแท็กซี่ เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงตามที่สื่อสังคมออนไลน์ และสื่อต่างๆ นำเสนอข่าว กรณี หนุ่มมอ ไซค์ขับปาดหน้ารถแท็กซี่ แล้วโดนชนท้าย ไม่พอใจ คว้าหมวกกันน็อกฟาด เหตุเกิดบริเวณถนนราชพฤกษ์ แยกบางพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ บางบอน1 แขวงบางแค เขตบางแค กทม. ในเขตพื้นที่ สน.เพชรเกษม ว่า ได้รับรายงานจาก สน.เพชรเกษม ว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.63 เวลาประมาณ 14.30 น.

ได้มีชาย อายุ 75 ปี ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถแท็กซี่ มายังบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับจักรยานยนต์คู่กรณี และจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้เสียหลักไปชนกับรถกระบะอีกคันหนึ่งได้รับความเสียหาย จากนั้นได้ขับออกมาจากบริเวณดังกล่าว และถูกผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำร้ายร่างกาย โดยใช้หมวกกันน็อกฟาดจากนั้นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้หลบหนีไป

ฟาดไม่ยั้ง

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ได้ส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีชายอายุ 32 ปี เดินทางเข้ามาแสดงตนต่อ พนักงานสอบสวน ว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีทำร้ายร่างกาย

และคดีทางจราจร ซึ่งในส่วนของคดีทำร้ายร่างกายนั้น ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะทำการแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดในความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และในส่วนของคดีทางจารจร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กล้องวงจรปิดและพยานบุคคล เป็นต้น เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางคดี และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ขอฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนน อย่าใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา

เมื่อเกิดเหตุควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าใช้กำลังตัดสิน เพราะไม่ว่าการกระทำใดการกระทำหนึ่งอาจส่งผลเสียแก่ตนหรือผู้อื่นได้ โดยนำหลักฐานด้วยการถ่ายภาพทะเบียนรถ ตำหนิรูปพรรณ สี ยี่ห้อ รุ่น หรือหลักฐานอื่นๆ มาแจ้งที่สถานีตำรวจพื้นที่รับผิดชอบ หรือแจ้งสายด่วน 191 ได้ ตลอด 24 ชม

เมื่อวันที่ 29 พค ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปพบคุณตาคนขับแท็กซี่ นักข่าวเผย ตาเม้ง แซ่เฮง วัย 75 ปี คนขับแท็กซี่ ที่ถูกหนุ่มหัวร้อนกระหน่ำตีด้วยหมวกกันน็อค ที่แท้แกต้องใช้ชีวิตลำพัง เช่ารถแท็กซี่ขับหาเงินประทังชีวิต อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆไม่มีลูกหลานเลี้ยงดู โดยตาเม้งเผยว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าไปทำอะไรให้ ทำไมต้องเล่นกันจะถึงปางตายขนาดนี้ คุณตาเล่าว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด รายได้ก็หดหายลงไปมาก หากินได้เป็นรายวันไป พอเกิดเหตุการณ์นี้ เลยต้องพักรักษาตัว ไม่ได้ออกขับแท็กซี่ ในส่วนของการดำเนินคดี อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน

ภาพจาก WORKPOINT NEWS

ภาพจาก WORKPOINT NEWS

ภาพจาก WORKPOINT NEWS

อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้คุณตาหายไวๆนะครับ

ขอบคุณ WORKPOINT NEWS

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ