รัฐเล็งใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน จัด ไทยเที่ยวไทย ฟื้นเศรษฐกิจปลายปี

รัฐเล็งใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน จัด ไทยเที่ยวไทย ฟื้นเศรษฐกิจปลายปี

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.63 นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ สศช. เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 5 มิ.ย.63 จะเปิดให้หน่วยงานราชการนำเสนอแผนโครงการฟื้นฟูวงเงินรวม 400000 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนด พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

เพื่อให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้พิจารณาภายในวันที่ 2 กรกฎาคม และนำเสนอ ครม.วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 หลังจากนั้นจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันที ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง ตุลาคม 2563

ดร ทศพร ศิริสัมพันธ์

จัด ไทยเที่ยวไทย ฟื้นเศรษฐกิจปลายปี

สำหรับกรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศใน จะนำเม็ดเงินบางส่วนไปกระตุ้นการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งรัฐบาลอาจจะมีโครงการ ไทยเที่ยวไทย เพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ โดยอาจจะมีการสนับสนุนแจกคูปองให้ลดราคาค่าที่พักให้ 40ถึง50 เปอร์เซ็น เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่มีรายได้ออกมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทาง

นอกจากนี้ จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งจะพยายามเน้นสร้างอุตสาหกรรมให้มีความยั่งยืน ในภาคของการส่งออก เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะไปสอดรับกับแรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงที่CO VID แพร่กระจาย ซึ่งจะเข้าไปช่วย สร้างงาน สร้างรายได้ระดับชุมชน

ซึ่งจะเน้นการเกษตรยกระดับการผลิต และการท่องเที่ยวชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชน และส่งเสริมการตลาด คาดว่าแนวทางนี้จะใช้งบประมาณประมาณ 50เปอร์เซ็น หรือประมาณ 200000 ล้านบาทจากงบประมาณทั้งหมด ทั้งนี้ จะการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ด้วยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุนกระบวนการผลิต

ทั้งนี้ แต่ละโครงการจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 2564 พร้อมยืนยันไม่มีการจัดสรรโควตาสัดส่วนงบประมาณให้แต่ละกระทรวง โดยจะเน้นจัดสรรงบให้โครงการที่เสนอมาตามแนวทางดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องใช้งบทั้งหมด 400,000 ล้านบาท ส่วนกระบวนการเบิกจ่ายเงินแต่ละโครงการจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงคลังอีกครั้ง เพื่อลดขั้นตอนการเบิกจ่าย พร้อมย้ำทุกโครงการจะทำอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบรายละเอียดการเบิกจ่ายได้

อ้างอิง prachachat

ขอบคุณ Prachachat

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ