นพ ทวี รับเป็นนาทีชี้ไทยต้องแยกตัว

นพ ทวี รับเป็นนาทีชี้ไทยต้องแยกตัว

หลายคนคงได้ดูหลังจากรายการโหนกระแสเมื่อวันที่ 25 มีค ซึ่งหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ยังเกาะติดสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 วันนี้ 900 กว่าราย พรุ่งนี้ทะลุพันรายชัวร์ๆ เมืองไทยเป็นอิตาลีโมเดลหรือยัง วันนี้พูดคุยกับ นพสมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ รศ นพ ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ

ภาพจาก รายการโหนกระแส

อาจารย์ทวี ผมเคยถามอาจารย์ว่าเราไม่อยากให้เกินวันละ 100 คน ถ้าเกินต้องประเมินอีกที วันนี้เกินแล้ว ทุกวันร้อยกว่าคน มีไปถึง 180 กว่าคน

นพ ทวี วันที่เยอะสุดคือ 188 คน เมื่อสองวันที่แล้ว หลังจากนั้นทรงตัวอยู่ระดับ 100 ต้นๆ ระดับนี้เราพอใจ คงต้องทำงานหนักมากขึ้นไปอีก ผมใช้คำว่ามากขึ้นกว่านี้อีกเราถึงจะกดได้ ผมชอบยกตัวอย่างเหมือนรถที่กำลังวิ่งลงเขา เร็วมากเลยนะ การเหยียบเบรกทันทีเป็นไปไม่ได้ ต้องให้พยายามเหยียบเบรกให้มันค่อยๆ ชะลอไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ ให้ระดับนี้ไปเป็นเดือน เป็นหลายเดือนก็ได้ เรามีศักยภาพในการที่จะรองรับ ในการดูแล ไม่ได้พูดให้คนไทยเบาใจ

มีการประเมินจากอาจารย์หมอหลายท่านเขาบอกว่าเมืองไทยกำลังเป็นอิตาลีโมเดล กำลังไต่เพดานขึ้น เทียบเคียงอิตาลีเขาเลย

นพ.ทวี จริงครับ ถ้าเราไม่ทำอะไรก็จะขึ้นแบบนั้น แต่ระหว่างทางเรามีมาตการกดลงได้ ออสเตรเลียเป็นตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่าย ลองดูนะที่ออสเตรเลียเขามีการประเมินหลังผ่านไป 50 วัน ของไทยเราจะเห็นว่าตามกราฟอยู่ตรงกลาง เรากำลังจะชิดกลุ่มบนหรือเราจะชิดกลุ่มล่างมันค่อนข้างเสี่ยง ก็ขึ้นอยู่กับมาตรการ เราลองดูอีกรูปเป็นของออสเตรเลีย เขาเพิ่งตีพิมพ์ให้ เขาบอกว่าเขาเพิ่งผ่านมา 50 วัน ถ้าเขามีการทำระยะห่างทางสังคมด้วยมาตรการประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์คือสีแดง แสดงว่า 70 เปอร์เซ็นต์ไม่เพียงพอ

แต่ถ้าทำถึงระดับ 80 เปอร์เซ็นต์มันก็จะวิ่งเป็นเส้นสีเขียว ซึ่งเราอยากได้ แต่จะให้ดีกว่านั้นคือเส้นสีน้ำเงิน ซึ่งต้องทำถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เว้นระยะห่างทางสังคม เราจะเห็นว่าไม่ว่าแดงเขียวน้ำเงิน ยังมีหลังเต่า มีแรงเหวี่ยงแรงเฉื่อยอยู่ ขณะนี้เราร้อยกว่าต้นๆ เป็นสิ่งที่เราอยากได้ แต่หลังจากผ่านไปสิบวัน หลังเต่าเริ่มลง สำคัญมากเลยนะครับเป็นเครื่องชี้เป็นชี้ตายสำหรับประเทศเรา ถ้ายังไม่มีการแยกห่างจากสังคมที่เพียงพอ เราก็จะได้เส้นสีแดงพุ่งไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามีมาตรการนี้ อย่างน้อยก็จะกดลงไป เป็นสิ่งที่เราคาดหวัง มาตรการนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ

มีกรณีเขาลือว่าเตียงไม่พอแล้ว เพราะคนเข้าไปเยอะ บางคนออกมาโพสต์ในโซเชียลเลยว่าไม่มีเตียง หาเตียงไม่ได้ เป็นอย่างนั้นมั้ย

นพ.สมศักดิ์ ผมเรียนอย่างนี้ก่อน เรามีคนไข้ 900 กว่าคน เตียงทั่วประเทศเรามี 11819 สองช่องบน เป็นห้องแยกความดันลบเต็มรูปแบบกับประยุกต์ และห้องแยกที่ใช้รับคนไข้โควิด หอผู้ป่วยรวมทั่วไป ก็เอามาเป็นเตียงผู้ป่วยโควิด และไอซียู นี่คือทั่วประเทศ ถ้าเฉพาะกรุงเทพฯ ถ้ารวมดู น่าจะ 500 กว่าเตียง ไม่ถึง 600 เตียงดี คนไข้ทั่วประเทศตอนนี้ยังไม่ถึงพัน อยู่กรุงเทพฯ ครึ่งๆ จำนวนเตียงพอเพียงแน่นอน นี่ยังไม่รวมเอกชน ซึ่งขออนุญาตเรียน จะบอกว่าโควิดเป็นวิกฤตก็วิกฤต แต่ผมมองว่าเป็นโอกาสอันดี ที่ภาครัฐและเอกชนมาร่วมมือกัน

ภาพจาก รายการโหนกระแส

เอกชนมาร่วมแล้ว

นพ สมศักดิ์ ตอนนี้มีหลายเครือของเอกชนจะทำเตียงที่เอาคนไข้หลายคนมานอนรวมกัน ทางนี้ผมยืนยันว่ากรมเองได้รับมอบหมายให้เป็นคนประสานงาน คือในกรุงเทพฯ ค่อนข้างซับซ้อน มีรพ กรุงเทพมหานคร รพ มหาลัย รพ ทหาร รพ ตำรวจ รพ.กรมการแพทย์เอง รพ รัฐ และมีรพ เอกชนอีก ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ทุกเครือข่ายมาช่วยกัน

ทำไมยังมีคนที่เขาบอกว่าเวลาเขาเป็น ทำไมยังต้องนอนรอเตียง

นพ สมศักดิ์ ตอนนี้เราเอาเตียงจากทุกเครือข่าย เราเริ่มจากกรุงเทพฯ ก่อน และคีย์ข้อมูลเข้าไปทุกวันเพื่อให้เห็นว่าที่ไหนว่าง ถ้าหนักก็นอนห้องความดันลบประยุกต์ มันก็มีปัญหานิดหน่อย ตอนรีเฟอร์คนไข้ไป บางที่ห้องนี้ไม่ว่างจะรีเฟอร์คนไข้หนักไปห้องความดันลบมันเต็ม ก็มีการประสานยุ่งยากนิดนึง แต่เรียนอีกครั้งว่าสักพักนึง พอเป็นเรียลไทม์ออนไลน์ได้ก็ไม่เป็นปัญหาเลย ตอนนี้ผู้ใหญ่หลายคนลงมาช่วยกัน รับประกันร้อยเปอร์เซ็นต์เตียงพอแน่นอน ถ้าตัวเลขอยู่เท่านี้

อ่านเพิ่มเติมคลิก

ขอบคุณ มติชนออนไลน์

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ