ตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว ไวยาวัจกรวัด ถอยรถชนเด็ก 7 ขวบเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 3 ราย

ตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว ไวยาวัจกรวัด ถอยรถชนเด็ก 7 ขวบเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 3 ราย

วันที่ 3 พ.ย.2568 สำหรับความคืบหน้าเหตุสลดในวัดอโสการาม บ้านโสกนกเต็น หมู่ 1 ต.โสกนกเต็น อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งมีการจัดงานบุญกฐินมีขบวนแห่เข้าวัด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา นายเอ (นามสมมติ) อายุ 64 ปี ซึ่งเป็น ไวยาวัจกรของวัดอโสการาม ขับรถยนต์ถอยหลังพุ่งชนเด็กหญิงวัย 7 ขวบเสียชีวิต และเด็กชายอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ มี 1 รายอาการสาหัส เพราะถูกชนอัดกับต้นไทรใหญ่ในวัด ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น

ล่าสุดที่ สภ.พล จ.ขอนแก่น ย่าและพ่อเด็กหญิงอายุ 7 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ พร้อมญาติพี่น้องเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยตามขั้นตอน โดยมีคู่กรณีคือ นายเอ (นามสมมติ) ไวยาวัจกรของวัดอโสการาม เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อไกล่เกลึ่ยกับคู่กรณีเช่นกัน

โดยมากับลูกชาย ซึ่งต้องใช้ไม้พยุงเดินเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกขณะเกิดเหตุ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเข้าห้องสอบสวนเพื่อพูดคุยตกลงกันในส่วนของค่ารักษาเยียวยาต่างๆที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ ยังอยู่ระหว่างการพูดคุย โดยมีพนักงานสอบสวนเป็นคนกลาง

ย่าของผู้เสียชีวิต บอกว่า ในส่วนเหตุการณ์ช่วงอยู่วัดนั้นตนเองอยู่ด้านหลัง ส่วนหลานอยู่ด้านหน้า ก่อนที่รถเก๋งจะพุ่งถอยหลังชนกับต้นไม้ ทีแรกไม่คิดว่าเป็นหลานตัวเอง พอไปดูก็เห็นป้าของหลานสาวอุ้มเอาไว้ และเห็นเด็กคนอื่นๆมีชาวบ้านมาช่วยกันอุ้มเช่นกัน พอหลานสาวเห็นตนเองรีบมากอดบอกว่าเจ็บ ตนเองเห็นบาดแผลของหลานสาวใต้ตาขวาฉีก เลือดออกอาบเต็มหน้าตนเองบอกหลานอย่าหลับก่อนที่รถพยาบาลจะมารับไป รพ.หมอเอ็กซเรย์บอกน้องมีเลือดออกเยอะ จะส่งรพ.ขอนแก่นแต่ก็ไม่ส่งสักที

ก่อนจะเอาไปเอ็กซเรย์อีกครั้ง หมอแจ้งว่าหลานม้ามแตก ตับแตก กระดูกแตก ซี่โครงหัก ตนเองก็คิดหลานไม่น่ารอด พอเอ็กซเรย์มาเสร็จ หลานก็บอกว่าเจ็บมากๆกลัวมาก ตนเองก็ได้แต่บอกอดทนถึงมือหมอแล้วเดี๋ยวก็หาย ก่อนที่หมอพยาบาลจะมาทำแผลที่ศีรษะให้ ก่อนที่หลานสาวจะหมดสติและเสียชีวิตตอนช่วงประมาณ 20.00 น.

ในส่วนทางคู่กรณีนั้นได้ให้เงินช่วยเหลือค่าทำศพ 20,000 บาท ซึ่งทางครอบครัวจะยังไม่เผาศพ จะรอพูดคุยไกล่เกลี่ยกันในวันนี้ก่อน หากตกลงกันไม่ได้ก็จะเรียกร้องต่อ และขอให้ทางตำรวจดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว

อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันของทั้งสองฝ่าย ซึ่งยังไม่สามารถตกลงกันได้และอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ในส่วนของข้อหานั้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ