รศ. ดร.จารุประภา รักพงษ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า ประเทศไทยยังไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตแร่แรร์เอิร์ธในปีนี้ เหตุเพราะขาดกฎหมายรองรับ ขาดมาตรการควบคุม และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือความรู้เพียงพอในการผลิตอย่างปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งประชาชนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้

 

นักวิชาการเตือนว่ารัฐบาลชั่วคราวไม่ควรให้สัมปทานแก่ประเทศอื่น รวมถึงการนำเข้าแร่เพื่อผลิตต่อด้วย โดยข้อเสนอที่เหมาะสมควรรอรัฐบาลชุดใหม่ที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน เพื่อผลักดันนโยบายได้อย่างมั่นคง

สำหรับ MOU ไทย-สหรัฐฯ เรื่องความร่วมมือด้านแร่แรร์เอิร์ธ รศ. ดร.จารุประภา ชี้ว่าไม่ได้ผูกพันทางกฎหมาย ไทยจึงควรเปิดกว้างให้ข้อเสนอจากสหภาพยุโรปหรือจีน และประเมินตามความน่าสนใจสูงสุดทั้งด้านมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี

แร่แรร์เอิร์ธ

นอกจากนี้ นักวิชาการเน้นย้ำว่าไทยควรปรับปรุงกฎหมายตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อป้องกันมลพิษข้ามแดนจากเหมืองแร่เถื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน หากพบการนำเข้าแร่ที่ก่อให้เกิดมลภาวะในไทย ต้องยุติการนำเข้าทันที เพื่อสร้างมาตรฐานและความโปร่งใสในการจัดการอุตสาหกรรมแร่แรร์เอิร์ธอย่างยั่งยืน.