ครอบครัวชาวบ้านศรีวัฒนา ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เผยความรู้สึกดีใจสุดชีวิต หลังทราบข่าวว่าหลานสาววัย 19 ปี ที่ถูกหลอกไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา สามารถหนีข้ามกลับมาฝั่งไทยได้สำเร็จ โดยขณะนี้อยู่ในความดูแลของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ตราด ภายหลังทหารตามแนวชายแดนช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย

หญิงวัย 19 ปีรายนี้ เพิ่งเรียนจบ ปวช. และตั้งใจหางานทำเพื่อช่วยพ่อ แต่แม่ซึ่งแยกทางกับพ่อไปนานได้ติดต่อหางานให้ ก่อนจะกลายเป็นช่องทางที่ทำให้ลูกสาวถูกหลอกข้ามประเทศไปทำงานผิดกฎหมายที่ฝั่งกัมพูชา เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ครอบครัวตกอยู่ในความกังวลและเฝ้ารอข่าวด้วยความหวังมาหลายสัปดาห์

น้าชายของหญิงวัย 19 ปี เล่าว่า ทันทีที่ทราบข่าวว่าหลานสาวหนีข้ามกลับมาได้ ทุกคนในบ้านถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจ ทุกคนรอวันนี้มานาน ดีใจจนกอดกันกลม เขากล่าว พร้อมเผยว่าแม้หลานสาวจะถูกดำเนินคดีฐานเป็น บัญชีม้า และกำลังถูกส่งตัวไปยัง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แต่ครอบครัวก็ยังรู้สึกโล่งใจที่เธอกลับมาอย่างปลอดภัย

น้าชายยังบอกอีกว่า หลังหลานกลับถึงบ้านเกิด จะจัดฉายหนังกลางแปลงแก้บนที่ศาลหลักบ้าน เพื่อขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้หลานสาวรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ด้าน ร.อ.ธนณัฏฐ์ ลิ้มเอกนันท์ รองหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ทราบข้อมูลว่าทหารตามแนวชายแดน จ.ตราด เป็นผู้ช่วยหญิงสาวรายนี้ออกมาจากฝั่งกัมพูชาได้สำเร็จ ส่วนกรณีหญิงวัย 36 ปี ชาว อ.หนองหาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายที่ถูกหลอกไปเช่นกัน ขณะนี้มีข้อมูลว่าอาจถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ จ.บันเตียเมียนเจย อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหา

ขณะที่แม่ของหญิงวัย 36 ปี เปิดเผยว่า ลูกสาวเพิ่งโทรกลับมาขอความช่วยเหลือ ขอเงิน 1,000 บาทเพื่อซื้ออาหารกิน โดยให้โอนไปยังบัญชีบุคคลอื่น ซึ่งครอบครัวก็รีบโอนให้ทันทีด้วยความเป็นห่วง

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการหลอกลวงแรงงานไทยที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่ตกเป็นเป้าหมายของขบวนการนายหน้าข้ามชาติ ที่มักอ้างว่าจะพาไปทำงานถูกกฎหมาย ก่อนกลายเป็นการค้ามนุษย์ในที่สุด