สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ออกมาชี้แจงล่าสุดว่า ได้ดำเนินการโอน เงินบำนาญชราภาพ ประจำเดือนตุลาคม 2568 เข้าบัญชีผู้สูงอายุทั่วประเทศแล้ว เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพในช่วงเกษียณ โดยผู้มีสิทธิจะได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่ 3,000 - 7,500 บาท ตามระยะเวลาการส่งเงินสมทบ

การโอนเงินในรอบเดือนตุลาคมนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดปกติหนึ่งวัน เนื่องจากวันที่ 25 ตุลาคมตรงกับวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ

เลื่อนจ่ายเร็วขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุสะดุดการรับเงิน

ตามหลักเกณฑ์เดิมของ สปส. การจ่ายเงินบำนาญจะโอนเข้าบัญชีผู้รับภายในวันที่ 25 ของทุกเดือน แต่ในเดือนตุลาคมนี้ สปส. ได้ เลื่อนโอนเร็วขึ้นเป็นวันที่ 24 ตุลาคม เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับเงินอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน

เงื่อนไขผู้มีสิทธิรับบำนาญชราภาพ

ผู้ที่จะได้รับสิทธิ เงินบำนาญชราภาพ ต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ดังนี้

1. มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์

2. สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 หรือมาตรา 39

3. จ่ายเงินสมทบครบตามระยะเวลาที่ สปส. กำหนด

เมื่อผ่านเกณฑ์แล้ว ผู้มีสิทธิจะได้รับเงินทุกเดือนตลอดชีวิต

สูตรคำนวณบำนาญ ใครมีสิทธิรับเต็ม 7,500 บาท

สปส. ใช้สูตรคำนวณจาก ร้อยละของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ก่อนเกษียณ ยิ่งส่งเงินสมทบนานและมีฐานเงินเดือนสูง ก็ยิ่งได้รับเงินมากขึ้น

- ส่งเงินสมทบ 15–20 ปี : ได้ประมาณ 3,000–4,125 บาท/เดือน

- ส่งเงินสมทบ 26–30 ปี : ได้ประมาณ 5,475–6,375 บาท/เดือน

- ส่งเงินสมทบ 31–35 ปี : ได้สูงสุดถึง 7,500 บาท/เดือน

ขั้นตอนและไทม์ไลน์การยื่นขอสิทธิ

เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิสำคัญนี้ สปส. แนะนำให้ผู้ประกันตนตรวจสอบและยื่นขอตามกำหนด

- เงินบำนาญรายเดือน: หลังอนุมัติ เงินจะเข้าบัญชีภายในวันที่ 25 ของเดือนถัดไป

- เงินบำเหน็จ (แบบก้อน): หลังอนุมัติ จะได้รับภายใน 7–10 วันทำการ

หากต้องการให้เริ่มรับสิทธิภายในเดือนนั้น ต้อง ยื่นภายในวันที่ 7 ของเดือน

การโอน เงินบำนาญชราภาพเดือนตุลาคม 2568 ของสำนักงานประกันสังคมครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณดีสำหรับผู้สูงอายุที่รอคอยเงินช่วยเหลือรายเดือน โดยเฉพาะผู้ที่ส่งเงินสมทบยาวนานกว่า 30 ปี ที่จะได้รับสูงสุดถึง 7,500 บาทต่อเดือนตลอดชีพ