ย่องสึกแล้ว! เจ้าอาวาสวัดดังเกาะสีชัง ยักยอกเงินกฐินกว่า 11 ล้าน อ้างถูกสาวหลอก

ย่องสึกแล้ว! เจ้าอาวาสวัดดังเกาะสีชัง ยักยอกเงินกฐินกว่า 11 ล้าน อ้างถูกสาวหลอก

วันที่ 24 ต.ค. 2568 ชาวบ้านในพื้นที่เกาะสีชัง ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ร้องเรียนให้ พระครูสาธิตกิตติญาณ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์นิยมธรรม ศรีราชา ในฐานะเจ้าคณะอำเภอเกาะสีชัง ตรวจสอบถึงการกระทำของพระวชิราลังการ (สวัสดิ์ อุตฺตมวํโส) หรือพระอาจารย์ขาว เจ้าอาวาสวัดจุฑาทิศธรรมสภาราม และยังเป็นเจ้าคณะตำบลท่าเทววงษ์ ว่า มีการยักยอกนำเงินจากการทอดกฐินของทางวัดตั้งแต่ปี 2564 ไปใช้ส่วนตัว รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีบรรดาญาติพี่น้องของเจ้าอาวาส ยึดครองการทำหน้าที่ต่างๆ ภายในวัดและศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่อีกด้วย ต่อมา พระครูสาธิตกิตติญาณ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์นิยมธรรม ศรีราชา ในฐานะเจ้าคณะอำเภอเกาะสีชัง ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรีดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และจากการตรวจสอบ พบพฤติกรรมไม่โปร่งใสของพระอาจารย์ขาว ไม่ได้นำเงินจากงานทอดกฐินสามัคคีที่ประชาชนร่วมบริจาคปรับปรุงอุโบสถเข้าบัญชีทางวัด แต่เก็บเป็นเงินสดและบางส่วนถูกนำเข้าบัญชีตัวเอง

ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี พบว่าเงินจากงานทอดกฐินสามัคคี ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ไม่ได้ถูกโอนเข้าบัญชีวัด ประกอบด้วย งานทอดกฐินสามัคคี ปี 2565 จำนวนเงิน 6 ล้านบาท ปี 66 จำนวนเงิน 2.1 ล้านบาท ปี 67 จำนวนเงิน 2.9 ล้านบาท

และปี 68 งานทอดกฐินพระราชทาน ซึ่งมี นายธวัชชัย สีทอง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี ได้เงินจำนวน 3 ล้านบาท แต่โชคยังดีเงินทอดกฐินพระราชทานถูกควบคุมดูแลโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรีไว้แล้ว

ล่าสุด พระอาจารย์ขาวเดินทางเข้าพบ พระเทพวชิรปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระอารามหลวง วัดชัยมงคล รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เพื่อทำการลาสิกขา

จากนั้นเดินทางไปพบ พ.ต.ต.ณัฐพงษ์ สุทธิพิพัฒนกูล สว.(สอบสวน) สภ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา จากการสอบสวน อดีตพระอาจารย์ขาวอ้างว่าถูกหญิงสาวรายหนึ่งเข้ามาตีสนิทเป็นเวลานาน จนกระทั่งในปี 2565 เริ่มมีการชวนลงทุน หลากหลายชนิด จึงได้นำเงินไปร่วมลงทุน จนกระทั่งติดต่อหญิงรายดังกล่าวไม่ได้แล้ว

เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพฤติกรรมโอนเงินจำนวนหลักแสนหลายครั้ง โดยโอนให้หญิงสาวที่กล่าวอ้าง รวมถึงญาติพี่น้อง อาทิ น้องชาย น้องเขย ที่ทำหน้าที่ไวยาวัจกรวัด และพี่สาว ที่ทำหน้าที่ดูแลอาศรม รวมถึงซื้อรถกระบะในนามชื่อตัวเอง จำนวน 1 คัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ