เหยื่อชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกไปอยู่ในฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภายในกัมพูชาออกมาเปิดเผยเรื่องราวสะเทือนใจ หลังถูกตำรวจกัมพูชา รีดไถเงิน เพื่อแลกกับความช่วยเหลือ แม้แต่การเข้าห้องน้ำก็ยังต้องเสียค่าธรรมเนียม

ชายชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งวัยราว 20 ปี ซึ่งเคยถูกควบคุมตัวในฐานปฏิบัติการของแก๊งมิจฉาชีพนานกว่า 6 เดือน เล่าว่า เขาเคยถูกไฟฟ้าช็อตและทำร้ายร่างกาย ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทว่าหลังถูกส่งเข้าสู่ความดูแลของตำรวจกัมพูชา ชีวิตกลับไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่คิด

ถ้าไม่ให้ทิปกับตำรวจท้องที่ ชีวิตอยู่ยาก แม้แต่จะใช้ห้องน้ำยังต้องเสียเงิน ชายคนดังกล่าวเผย พร้อมระบุว่าตำรวจบางส่วนมีสายสัมพันธ์กับกลุ่มอาชญากรรม และมักแจ้งข่าวล่วงหน้าให้เครือข่ายทราบก่อนการเข้าตรวจค้น

อ๊ก แฮ-ซิล รองประธานสมาคมชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ยืนยันว่า ปัญหาคอร์รัปชันฝังรากลึกในประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาหลายคนมีรายได้น้อยกว่า 1 ล้านวอนต่อเดือน แต่กลับรับสินบนจำนวนมากจากองค์กรอาชญากรรม ตำรวจกัมพูชามักเลือกบุกค้นเฉพาะเครือข่ายที่จ่ายเงินไม่ครบ ส่วนรายใหญ่ที่มีเส้นสายมักหลบหนีก่อนทุกครั้ง อ๊กกล่าว

ก่อนหน้านี้ การบุกค้นฐาน ปรินซ์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ก็พบว่า ผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่หลบหนีไปก่อนการบุกจับ เหลือเพียงชาวเกาหลีใต้ 3 คนที่ยังติดอยู่ในตึก

ข้อมูลจาก Transparency International (TI) ระบุว่า กัมพูชาได้คะแนนเพียง 21 จาก 100 คะแนน ในดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ปีล่าสุด ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูงสุดในเอเชีย

ขณะนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้และกัมพูชาอยู่ระหว่างจัดตั้ง หน่วยเฉพาะกิจร่วม และสายด่วน 24 ชั่วโมง เพื่อรับมือคดีลักพาตัวและกักขังชาวเกาหลีใต้ในพื้นที่เสี่ยง ทว่ามีรายงานว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนในกัมพูชายังลังเลที่จะเปิดทางความร่วมมือ เนื่องจากเกรงว่าพฤติกรรมทุจริตของตนจะถูกเปิดโปง

ชาวเกาหลีใต้ในพนมเปญรายหนึ่งให้ความเห็นว่า ปัญหาที่แท้จริงคือ ตำรวจต่างชาติไม่สามารถเข้าถึงการทำงานของตำรวจท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมอาชญากรรมเหล่านี้ยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ที่มา: Yonhap