 
 มติสภา 184 เสียง ปิดช่องนิรโทษกรรม เยาวชน-คดี ม.112 แบบมีเงื่อนไข
ที่รัฐสภา วันที่ 21 ตุลาคม 2568 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธาน ได้เข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ สร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่อยู่ในความสนใจของสังคม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองย้อนหลังตั้งแต่ปี 2548 ถึง 2568

การพิจารณามาตรา 3 ซึ่งเป็นสาระสำคัญของร่างกฎหมาย ระบุว่ากฎหมายฉบับนี้ จะไม่ใช้บังคับ กับบุคคลที่กระทำผิดหรือถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือแสดงออกทางการเมือง หากการกระทำดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมือง โดยมีการถกเถียงกันอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับ เงื่อนไขการนิรโทษกรรมผู้เยาว์และคดีตามมาตรา 112
นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ตั้งข้อสังเกตว่า กมธ.ได้เพิ่มเงื่อนไขเฉพาะผู้กระทำผิดที่อายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งต่างจากร่างหลักของพรรคภูมิใจไทยที่ระบุชัดว่า ไม่รวมคดีตามมาตรา 112 พร้อมถามถึงเหตุผลของประธาน กมธ.ว่าเหตุใดจึงเห็นต่างจากหลักการเดิมของรัฐบาล
ขณะที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวเห็นด้วยกับการให้อภัยเด็ก แต่เน้นว่า ต้องมีขั้นตอน เพื่อไม่ให้เป็นการยกเว้นความผิดโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมเสนอให้พักการประชุม เพื่อให้ กมธ.และเสียงข้างน้อยหารือหาทางออกที่เป็นเอกภาพ
ด้าน นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวสนับสนุนการเปิดโอกาสให้เด็กที่กระทำผิดโดยยังไม่บรรลุนิติภาวะได้เริ่มต้นใหม่ เพราะ หากผ่านจุดนี้ไปได้ เขาจะกลับมาเป็นคนดีของสังคม
ภายหลังพักประชุมหนึ่งชั่วโมง ที่ประชุมยังเห็นต่างกันในประเด็น การนิรโทษคดี ม.112 และการคุ้มครองเยาวชน โดย กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอให้เพิ่มการนิรโทษแบบมีเงื่อนไขในมาตรา 3 และ 9/1 เพื่อให้เยาวชนที่อยู่ในกระบวนการศาลได้รับการพิจารณาใหม่
น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.พรรคประชาชน แสดงความผิดหวังที่ร่างสุดท้ายไม่เปิดกว้างเพียงพอ โดยกล่าวว่า
รู้สึกผิดหวังที่ต้องหาทางออกแบบอ้อม ๆ เลี่ยงบาลี ทั้งที่ผู้ได้รับผลกระทบยังไม่ได้รับฟังเลยว่าเขาต้องการอะไร พ.ร.บ.นี้จะสร้างสันติสุขได้อย่างไร หากยังมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู
เมื่อเข้าสู่การลงมติ ที่ประชุมมีมติ เห็นชอบตามร่าง กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยคะแนน 184 ต่อ 133 เสียง
ส่งผลให้มาตรา 3 คงตามเดิม คือ ไม่ครอบคลุมการนิรโทษกรรมคดี ม.112 และจำกัดเฉพาะเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
หลังการโหวต ที่ประชุมจึงดำเนินการพิจารณามาตราต่อไป ท่ามกลางเสียงสะท้อนจากหลายฝ่ายว่า กฎหมายฉบับนี้อาจยังไม่ตอบโจทย์เป้าหมาย สันติสุข ที่แท้จริงของสังคมไทย








