อยากมีชีวิตที่ดี! หญิงวัย 48 ไม่เข็ด ถูกมิจฯ หลอกหาผัวฝรั่ง สูญเงินไปแสนกว่า ล่าสุด ประกาศขอเดินหน้าหาผัวฝรั่งต่อ
เกิดเหตุสุดสะเทือนใจในจังหวัดอุดรธานี เมื่อหญิงวัย 48 ปี ต้องสูญเงินกว่า 135,000 บาท หลังถูกสองสามีภรรยามิจฉาชีพใช้เฟซบุ๊กหลอกจัดหาสามีชาวต่างชาติให้ โดยอ้างว่าเป็นนักธุรกิจร่ำรวยจากอังกฤษ ก่อนเชิดเงินหนีและบล็อกหนีทุกช่องทาง ปล่อยให้เหยื่อช้ำใจอยู่นานหลายเดือน

หญิงผู้เสียหายเล่าว่า ตนเป็นแม่หม้ายอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลสร้อยพร้าว อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน วันหนึ่งเห็นเพจเฟซบุ๊กที่โพสต์ภาพสาวไทยแต่งงานกับสามีต่างชาติกว่า 100 รูป พร้อมข้อความโฆษณาว่า หาคู่ต่างชาติได้จริง มีตัวตนทุกคน ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจทักไปพูดคุย
จากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นหญิงวัยกลางคนพูดจาดีและให้ข้อมูลอย่างละเอียดถึงขั้นเสนอรูปชายชาวอังกฤษที่อ้างว่าเป็นนักธุรกิจฐานะดี มีบ้านและรถหรู แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการกว่าแสนบาทเพื่อดำเนินเรื่องให้ถูกต้องตามขั้นตอน หญิงผู้เสียหายยอมเอารถกระบะไปรีไฟแนนซ์ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ก่อนโอนให้มิจฉาชีพ 100,000 บาท และจ่ายเพิ่มอีก 35,000 บาทตอนที่อีกฝ่ายขับรถเก๋งสีดำมารับเงินถึงบ้าน
หลังได้เงินครบ ทั้งคู่ก็หายตัวไปและบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง แม้หญิงจะพยายามตามเรื่องและเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองหาน แต่ไม่สามารถกู้ข้อมูลการสนทนาในโทรศัพท์กลับมาได้ ทำให้หลักฐานไม่เพียงพอคืบหน้าเพียงเล็กน้อย
ต่อมาไม่นาน มีหญิงในจังหวัดเดียวกันถูกหลอกในลักษณะเดียวกันสูญเงินอีก 30,000 บาท และสามารถบันทึกภาพวงจรปิดขณะมิจฉาชีพมารับเงินไว้ได้อย่างชัดเจน จึงนำข้อมูลไปแจ้งเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยโนนสูงได้ออกหมายเรียกหญิงคนหนึ่งซึ่งปรากฏในภาพวงจรปิดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในข้อหา ฉ้อโกง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านหญิงผู้เสียหายวัย 48 ปีเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องทำงานหนักส่งงวดรถที่นำไปรีไฟแนนซ์ และยังรู้สึกเสียใจที่ไว้ใจคนง่ายเกินไป แต่ยอมรับตรงไปตรงมาว่า ยังไม่เข็ดกับความฝันที่จะมีสามีต่างชาติ เพราะยังอยากมีชีวิตที่มั่นคงขึ้น เธอบอกว่า ตอนนี้ไปทำงานร้านนวดในตัวเมืองอุดรธานี หวังว่าสักวันอาจได้พบฝรั่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตจริง
เสียเงินไปเป็นแสน แขนฝรั่งยังไม่ได้จับ แต่ไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ คนเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ต้องลองอีกสักครั้ง หญิงผู้เสียหายกล่าวทั้งยิ้มและน้ำตาคลอ







