สแกมเมอร์ กัมพูชา โดนแล้ว! สหรัฐฯ เอาจริง ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

สแกมเมอร์ กัมพูชา โดนแล้ว! สหรัฐฯ เอาจริง ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

วันที่ 15 ต.ค.2568 ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ หรือ ดีโอเจ (DOJ) เปิดเผยว่า สหรัฐได้ยึดบิตคอยน์มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถือครองอยู่ในกระเป๋าเงินคริปโต ของ นาย เฉิน จื้อ ซึ่งควบคุมศูนย์หลอกลวงขนาดใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งสหรัฐถึงกับเรียกว่าเป็นแหล่ง เชือดหมู ขนาดใหญ่ ซึ่งการยึดทรัพย์ครั้งนี้ถือเป็นการริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดของกระทรวงยุติธรรมในประวัติศาสตร์ทีเดียว

สำนักข่าว ซีเอ็นบีซี ระบุว่า คำฟ้องที่กล่าวหาว่านาย เฉิน จื้อ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ถูกเปิดเผยต่อศาลรัฐบาลกลางในบรูคลิน นิวยอร์ก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดย สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตตะวันออกของนิวยอร์กระบุว่า นาย เฉิน จื้อ หรือที่รู้จักกันในชื่อวินเซนต์ ยังคงหลบหนีอยู่

โดยในเอกสารที่ยื่นต่อศาลระบุว่า เขาคือผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกัมพูชา ซึ่งอัยการระบุว่าบริษัทนี้เติบโต อย่างลับๆ จนกลายเป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ทางด้าน นาย โจเซฟ โนเซลลา อัยการสหรัฐฯ กล่าวว่า นาย เฉิน จื้อ ว่าเป็นผู้กำกับการฉ้อโกงการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมผิดกฎหมายที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก และการฉ้อโกงการลงทุนของ ปรินซ์ กรุ๊ป (Prince Group) ก่อให้เกิดความสูญเสียหลายพันล้านดอลลาร์และความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสแก่เหยื่อทั่วโลก รวมถึงที่นี่ในนิวยอร์ก โดยอาศัยเหยื่อที่ถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้ทำงานโดยขัดต่อความสมัครใจ

ด้านสำนักงานอัยการสหรัฐ ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ด้วยว่า ปรินซ์ กรุ๊ป ซึ่งดำเนินธุรกิจในกว่า 30 ประเทศนั้น ได้ดำเนินการ “ศูนย์รวมแห่งการหลอกลวงและบังคับใช้แรงงานอยู่ทั่วกัมพูชา และว่า บุคคล (เหยื่อ) ถูกควบคุมตัวโดยไม่ความสมัครใจอยู่ในศูนย์รวมที่มีส่วนร่วมในการฉ้อโกงการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า กลโกงเชือดหมู ซึ่งขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากเหยื่อในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก

กลโกงเหล่านี้ได้หลอกลวงผู้คนที่ติดต่อผ่านโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันส่งข้อความออนไลน์ ให้โอนเงินดิจิทัลเข้าบัญชีที่อยู่ภายใต้การควบคุมของโครงการนี้ พร้อมกับคำสัญญาอันเป็นเท็จว่าจะลงทุนและทำกำไร แต่ในความเป็นจริง เงินเหล่านั้นถูกขโมยจากเหยื่อและถูกฟอกเงินเพื่อผลประโยชน์โดย “ผู้หลอกลวงมักจะสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อเมื่อเวลาผ่านไป สร้างความไว้วางใจก่อนที่จะขโมยเงิน”

อัยการกล่าวว่ามีผู้คนหลายร้อยคนถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้ทำงานในพื้นที่หลอกลวง โดยมักถูกข่มขู่ด้วยความรุนแรงด้วย

นอกจากนั้น อัยการสหรัฐ ยังระบุว่า นาย จี้ และเครือข่ายผู้บริหารระดับสูงของปรินซ์กรุ๊ปถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองในหลายประเทศเพื่อปกป้ององค์กรอาชญากรรมของตน และจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่มุ่งเป้าไปที่แผนการนี้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ