สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่จังหวัดสระแก้วยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลังหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ตรวจจับความเคลื่อนไหวต้องสงสัยผ่านโดรนความร้อนช่วง ตี 4 ของวันที่ 13 ต.ค. 2568 ก่อนนำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณไร่อ้อยหลักเขต 47-48 บ้านอ่างศิลา ใกล้บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง

ผลการตรวจสอบพบแรงงานกัมพูชา 37 คน กำลังเดินข้ามชายแดนเข้าประเทศไทย โดยทั้งหมดเคยทำงานในไทยมาก่อน แต่ถูกเรียกกลับประเทศ และพยายามกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับแรงงานกัมพูชาลักลอบเข้าไทย รวมกว่า 155 คน แล้ว

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแนวชายแดนตั้งแต่เช้า พร้อมให้กำลังใจกำลังพลแนวหน้า และมอบสิ่งของจำเป็นเพื่อใช้ดำรงชีพในพื้นที่ โดยย้ำว่า วันนี้มาเพื่อให้กำลังใจ และฟังเสียงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานจริง ว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้าง ทั้งในด้านอุปกรณ์และสาธารณูปโภค ตอนนี้ทุกคนมีกำลังใจดีและพร้อมเต็มที่

ผบ.ตร. ยังเผยว่า หลังเหตุปะทะเมื่อ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการ ถอดบทเรียนทุกขั้นตอน เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจซับซ้อนขึ้น โดยยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติภายใต้ยุทธการของทหาร และพร้อมทำหน้าที่ แนวหน้า ปกป้องแผ่นดิน และ แนวหลัง ดูแลความปลอดภัยประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน

สำหรับแรงงานต่างด้าวที่จับได้ทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ก่อนผลักดันกลับประเทศโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นภาระของภาครัฐ

อยู่มานาน พูดกันรู้เรื่องก็จบ ไม่รู้เรื่องก็ต้องใช้กฎหมาย เพราะตรงนี้คือแผ่นดินไทย ไม่ใช่เขตพิพาท-ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้ายหนักแน่น สะท้อนจุดยืนชัดว่าไทยจะ ไม่ยอมให้ใครละเมิดอธิปไตยแม้แต่นิ้วเดียว