หญิงวัย 37 ปี เปิดใจใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทน หลังถูกอดีตสามีตามราวีไม่เว้นวัน แม้เลิกรากันมาแล้ว 2 ปีเต็ม แต่ยังคงตามขู่ อาละวาดทั้งบ้านและที่ทำงาน แม้จะแจ้งความนับครั้งไม่ถ้วนก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งได้

หญิงคนดังกล่าวเล่าว่า ตนเคยใช้ชีวิตคู่กับอดีตสามีโดยไม่ได้จดทะเบียนนานถึง 15 ปี ก่อนเลิกราเพราะถูกกล่าวหาว่าโกงเงินและถูกทำร้าย หลังจากนั้นอดีตสามีพยายามง้อ แต่เมื่อไม่ได้ผลก็เริ่มข่มขู่ และตามอาละวาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งบุกบ้านพ่อแม่ ทุบข้าวของ รวมถึงตามไปก่อเหตุที่ทำงาน จนกระจกแตกเสียหาย กล้องวงจรปิดถูกทำลาย

เธอเผยว่า แม้จะไปแจ้งความแล้วกว่า 7 ครั้ง และโทร 191 อีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่ตำรวจเรียกตัว อดีตสามีกลับยิ่งแสดงพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดมีการกระชากผมต่อหน้าลูกสาววัยเพียง 8 ปี จนเด็กตกใจวิ่งหนี ภาพเหตุการณ์นั้นทำให้เธอตัดสินใจพาลูกหนีออกจากบ้าน และไม่ยอมให้เจอพ่ออีก หลังพบว่าเขายังโพสต์คลิปโชว์ปืนในโซเชียล ทำให้ต้องอยู่อย่างหวาดผวา ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรถใกล้บ้านต้องรีบหอบลูกหนี แม้กระทั่งยามดึก

ด้านแม่ของอดีตสามี วัย 65 ปี ยอมรับว่า ลูกชายมีนิสัยหึงหวงจัด และตนเคยเตือนหลายครั้งแต่ไม่ฟัง พร้อมบอกว่าหากลูกทำผิดก็อยากให้ถูกดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนอดีตสามี วัย 45 ปี ยอมรับการกระทำทั้งหมด โดยอ้างว่าทำเพราะอยากได้ลูกคืน และยังรักอดีตภรรยา แต่ยอมรับว่าคงไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตคู่กันได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า หากลูกสาวบอกปฏิเสธ เขาจึงจะยอมถอย

หญิงผู้เสียหายย้ำว่า ทุกวันนี้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไปทำงานก็ไม่สบายใจ ต้องคอยระแวงว่าจะถูกตามมาทำร้าย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางช่วยเหลือ ก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงไปมากกว่านี้