แม่ทัพวรยส กล่าวทันที หลังรับมอบตำแหน่ง แม่ทัพภาค1 คนที่ 59
วันที่ 1 ตุลาคม 2568 กองทัพภาคที่ 1 ได้จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) ระหว่าง พลเอก อมฤต บุญสุยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 กับ พลโท วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 โดยมีพิธีลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า และกระทำพิธีส่งมอบธง และการบังคับบัญชาแม่ทัพภาคที่ 1 ณ ลานหน้าอาคารกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 โดยมีกองทหารเกียรติยศ 3กองพัน

พล.อ.อมฤต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผม รับหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานทุกท่าน ส่งผลให้ภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบจากผู้บังคับบัญชาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จนเป็นที่เชื่อมั่นของผู้บังคับบัญชา และเป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงขอขอบคุณทุกคน
สำหรับแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ความเป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา จึงมั่นใจว่า กองทัพภาคที่ 1 ภายใต้การนำของแม่ทัพภาคที่ 1 จะมีความเจริญก้าวหน้า เป็นกำลังหลักของกองทัพบก รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน และพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความผาสุก ให้แก่พี่น้องประชาชน และประเทศชาติสืบไป

พล.ท.วรยส กล่าวว่า ผมรับหน้าที่นี้ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยทหารที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ และความไว้วางพระราชหฤทัย จากพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ให้ปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการพิทักษ์ความมั่นคงของชาติ และดูแลรักษาพระบรมเดชานุภาพ แห่งสถาบันพระมหากษัตริย์
ดังนั้นกองทัพภาคที่ 1 จะเป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง โดยใช้ขีดความสามารถในการพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน และมุ่งมั่น ไปสู่การเป็นกองทัพที่พร้อมรบ และพร้อมถวายงานอย่างสูงสุด และ ขอให้คำมั่นว่า กองทัพภาคที่ 1 จะปฏิบัติตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกอย่างเคร่งครัด ด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และช่วยเหลือประชาชน
อีกทั้ง เป็นหนึ่งเดียวกับทุกภาคส่วนในการพัฒนา ประเทศ เพื่อประชาชน และสร้างความมั่นคงของชาติ
ทั้งนี้ หลังเสร็จพิธี พลโทวรยส แม่ทัพภาคที่ 1 ได้กล่าวถึงเจตนารมณ์ ว่า ขอให้เชื่อมั่นในกองทัพภาคที่ 1 ที่พร้อมจะปกป้องรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ โดยจะทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ และด้วยชีวิต โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ







