การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ MotoGP 2025 สนามที่ 17 รายการ เจแปนิส กรังด์ปรีซ์ ที่ โมบิลิตี้ รีสอร์ต โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 26-28 กันยายน 2568 เดินทางเข้าสู่รอบเมนเรซในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน ซึ่งแฟนความเร็วไทยจับตามองการขับเคี่ยวของนักบิดชาวไทยอย่าง ก้อง สมเกียรติ จันทรา จากทีม อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ เจ้าของรถหมายเลข 35

ภาพจาก FB:Somkiat Chantra

ภาพจาก FB:Somkiat Chantra

ก้องออกตัวจากกริดที่ 20 และสามารถไล่บิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะเริ่มจากตำแหน่งท้าย แต่ด้วยความสามารถและแท็กติกการแซงทำให้เข้าเส้นชัยเป็น อันดับ 15 ตามหลังผู้นำ +7.450 วินาที และรวมเวลาสิ้นสุด +30.990 วินาที คว้า 1 คะแนนสำคัญ เก็บคะแนนรวมซีซั่นนี้เป็น 3 แต้ม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนักบิดไทยในการแข่งขันระดับโลก

ส่วนการแข่งขันใน อันดับหัวแถว เป็นการปิดฉากอย่างดุเดือด โดย ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า นักบิดอิตาเลียนจากทีมดูคาติ ควบรถเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ทำเวลา 42 นาที 09.312 วินาที รับ 25 คะแนนเต็ม เพิ่มคะแนนรวมเป็น 274 คะแนน ขณะที่ มาร์ค มาร์เกซ นักบิดสแปนิชจากทีมดูคาติ ตามหลัง +4.196 วินาที รับ 20 คะแนนสำคัญ ทำให้ มาร์ค มาร์เกซ สามารถคว้า แชมป์โลก MotoGP 2025 เป็นสมัยที่ 9 ของตัวเอง แม้ยังเหลือการแข่งขันอีก 5 สนาม

มาร์ค มาร์เกซ คว้าแชมป์โลก โมโตจีพี 2025 เรียบร้อยแล้ว แม้ยังเหลืออีก 5 สนาม

คะแนนรวมของมาร์คสูงถึง 541 คะแนน ทิ้งอันดับ 2 อย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายจากทีมเกรซินี่ ที่มี 340 คะแนน ทำให้แฟนความเร็วทั่วโลกยืนยันแล้วว่า แชมป์โลกปีนี้ตกเป็นของมาร์คอย่างแน่นอน

สำหรับ สนามต่อไป MotoGP 2025 จะย้ายไปแข่งขันที่ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ที่ เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2568 ซึ่งแฟนมอเตอร์สปอร์ตไทยยังคงตั้งตารอผลงานของก้องสมเกียรติ ที่หวังจะเก็บคะแนนและสร้างผลงานที่ดีต่อเนื่องในเวทีระดับโลก

ภาพจาก FB:Somkiat Chantra

นอกจากจะเป็นศึกชิงแต้มแล้ว การแข่งขันสนามนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของนักบิดไทยที่แม้จะออกตัวท้ายแต่ก็ไม่ยอมแพ้ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยที่สนใจกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างมาก