27 กันยายน ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ได้มีการหารือร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดย ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม (กธ.) ในฐานะ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย และ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดกำแพงเพชร ได้ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนถึงการปกป้องเอกลักษณ์ของกีฬาไทย

ไผ่ยืนยันว่า ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ กีฬามวยไทยจะต้องใช้ชื่อว่า Muaythai เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเดินตามรอยกัมพูชาที่เคยเปลี่ยนชื่อเป็น กุน ขแมร์ ในซีเกมส์ก่อนหน้า เพราะถือเป็นการรักษา ศักดิ์ศรีและความเป็นเอกลักษณ์ของมรดกกีฬาประจำชาติไทย

นอกจากนี้ ไผ่ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในฐานะเจ้าภาพว่า ขณะนี้เหลือเวลาเพียง 73 วันก่อนพิธีเปิดซีเกมส์ ซึ่งนับเป็นความท้าทายสำคัญของประเทศไทย หลังห่างหายจากการจัดซีเกมส์นานถึง 20 ปี โดยภารกิจสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินงาน ได้แก่ การจัดพิธีเปิด-ปิดให้สมบูรณ์ การถ่ายทอดสดที่ได้มาตรฐาน การประชาสัมพันธ์สู่สากล และการคัดเลือกอาสาสมัครเพื่อรองรับนักกีฬาและผู้ชม

นี่คือภารกิจที่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของคนไทย และเป็นงานระดับนานาชาติ ผมพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อให้ซีเกมส์ครั้งนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด และสะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในสายตาชาวโลก ไผ่ ลิกค์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ยังมีประเด็นร้อนเรื่อง สหพันธ์เปตองนานาชาติ ที่สั่งห้ามนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ เนื่องจากปัญหาคุณสมบัติของนายกสมาคมกีฬา ซึ่งอาจกระทบต่อการจัดแข่งขันกีฬาประเภทนี้ในซีเกมส์ อย่างไรก็ตาม ไผ่ระบุว่า ขณะนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาทางออกเพื่อไม่ให้ทีมเปตองไทยพลาดโอกาสลงแข่งขัน

ซีเกมส์ครั้งที่ 33 ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของนักกีฬาทั่วอาเซียนแล้ว ยังเป็น เดิมพันด้านศักดิ์ศรีของชาติไทย ในฐานะเจ้าภาพที่ต้องทำให้ดีที่สุดในทุกมิติ ตั้งแต่สนามแข่งขันจนถึงการรักษาเอกลักษณ์ของกีฬาไทยให้ยืนหยัดบนเวทีโลก