
สลด! สาววัย 21 ขี่จยย. ชนท้ายรถ 18 ล้อ ท่อไอเสียบาดคอ ดับคาที่
วันที่ 23 ก.ย.2568 เมื่อเวลา 00.30 น. ทางพ.ต.ท.สุนทร พิมพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งเหตุว่ารถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อจอดริมทาง บริเวณถนนสุขสวัสดิ์มุ่งหน้าสามแยกพระสมุทรเจดีย์เยื้องสำนักงานประกันสังคมสาขาพระประแดง ม.1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
สถานที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณเลนซ้ายสุดติดฟุตปาธพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนหัวพ่วง และท้ายพ่วง สระบุรี บริเวณท้ายหัวพ่วงมีรอยเฉี่ยวชน ท่อไอเสียที่ยื่นออกมามีรอยบุบและมีคราบเลือดติดอยู่
ห่างกันเล็กน้อยพบร่างผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.ปวรรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี สภาพร่างนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน มีบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณลำคอ หลอดลมขาด บริเวณแขนซ้ายมีบาดแผลเป็นรอยถลอกจนเห็นเนื้อด้านใน สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำขลิบแดง สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าแตะ ห่างกัน 5 เมตรพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำ หน้ารถพังยับเยิน
จากการสอบถาม นายสุรเชษฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี คนขับรถบรรทุก 18 ล้อ ให้การว่า ตนบรรทุกข้าวโพดมาจาก จ.สระบุรี เพื่อไปส่งให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่งย่านพระสมุทรเจดีย์ โดยมาจอดนอนตรงที่เกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรอเวลาลงสินค้าในตอนเช้า
จู่ ๆ ได้ยินเสียงคล้ายมีรถจักรยานยนต์ล้มข้างรถตน จึงได้ลงมาดูพบเห็นคนนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนน และมีรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ด้วย ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ
ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีบ้านพักอยู่ในซอยวัดใหญ่ ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปบ้านเพื่อนภายในซอยวัดครุใน ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์กลับไปบ้านเพื่อนอีกคนที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล และมาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนไปถึงบ้านเพื่อน
ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนท้ายรถบรรทุกเองหรือมีรถอื่นเฉี่ยวชนเพราะช่วงเกิดเหตุไม่มีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ ก่อนบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้นพร้อมมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ และเชิญคนขับรถบรรทุก 18 ล้อ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป