เปิดผลสำรวจ อีสานโพล กับเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง ช่วง ส.ค.-ก.ย. 2568

เปิดผลสำรวจ อีสานโพล กับเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง ช่วง ส.ค.-ก.ย. 2568

วันที่ 17 ก.ย. 2568 อีสานโพล (E-Saan Poll) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องคนอีสานกับเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองช่วง ระหว่าง เดือนสิงหาคม-กันยายน 2568 ที่ผ่านมานั้น

ซึ่งพบว่า คนในภาคอีสานส่วนใหญ่ เห็นด้วยต่อหลายประเด็นทางการเมืองที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะการพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา

รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนความคิดเห็นต่อสถานการณ์และข่าวสารการเมืองสำคัญในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 2568 โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2568 กลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,058 ราย ครอบคลุม 20 จังหวัดในภาคอีสาน

ผลสำรวจ พบว่า กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี จากคดีคลิปเสียง ร้อยละ 51.6 ระบุพอใจ-เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 27.2 เฉย ๆ และร้อยละ 21.2 ไม่พอใจ-ไม่เห็นด้วย

การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคประชาชน เสนอเงื่อนไขยุบสภาภายใน 4 เดือน ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และไม่ร่วมรัฐบาล ร้อยละ 46.1 ระบุเฉยๆ ร้อยละ 43.8 พอใจ-เห็นด้วย และร้อยละ 10.1 ไม่พอใจ-ไม่เห็นด้วย

การโหวตให้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็น นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 51.1 เฉยๆ ร้อยละ 30.3 พอใจ-เห็นด้วย และร้อยละ 18.6 ไม่พอใจ-ไม่เห็นด้วย

ส่วนการโหวตคดี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รับโทษจำคุก 1 ปี จากคดีชั้น 14 ร้อยละ 44.4 เฉยๆ ร้อยละ 44.2 พอใจ-เห็นด้วย และร้อยละ 11.4 ไม่พอใจ-ไม่เห็นด้วย และโครงการคนละครึ่ง ของรัฐบาลอนุทิน ได้รับเสียงสนับสนุนสูงสุด ร้อยละ 49.4 พอใจ-เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 39.8 เฉย ๆ และร้อยละ 10.8 ไม่พอใจ-ไม่เห็นด้วย

หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล กล่าวต่อว่า ในส่วนของนโยบายชายแดนและรัฐธรรมนูญ พบว่า MOU ปี 2543 และ 2544 ไทย-กัมพูชา ร้อยละ 61.0 เห็นว่า ควรยกเลิก ร้อยละ 18.5 ให้ศึกษาก่อน และร้อยละ 9.7 ไม่ควรยกเลิก

ส่วนการสร้างกำแพงแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ร้อยละ 59.6 เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 24.8 เห็นว่าควรศึกษาให้รอบคอบ และร้อยละ 14.0 ไม่เห็นด้วย สำหรับการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อยละ 68.3 เห็นว่า ควรรอดูสถานการณ์ก่อน ร้อยละ 23.5 ต้องการให้เปิดทันที และร้อยละ 8.2 มีความเห็นอื่นๆ

การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 15 เพื่อเปิดทางเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยประชาชน ร้อยละ 54.5 เห็นว่าควรแก้ ขณะที่ร้อยละ 35.3 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 10.2 มีความเห็นอื่นๆ การทำประชามติว่าควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ร้อยละ 55.6 เห็นว่า ควรจัดทำใหม่ ร้อยละ 32.9 ไม่เห็นควร และร้อยละ 11.5 มีความเห็นอื่นๆ

ขณะเดียวกัน ประเด็นการเมืองที่เกี่ยวกับท่าทีของพรรคประชาชน หากพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในเดือนกันยายน-ลาคมนี้ พบว่า ร้อยละ 52.3 เห็นว่าควรช่วยรัฐบาลทำงานต่อ แต่เสี่ยงขาดกลไกกดดันให้ยุบสภา ขณะที่ร้อยละ 47.2 เห็นว่า ไม่ควรช่วยเพื่อให้เกิดการยุบสภาโดยเร็ว และร้อยละ 0.5 มีความเห็นอื่น ๆ

ทั้งนี้ผลสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า คนอีสานมีท่าทีต่อประเด็นการเมืองอย่างหลากหลาย โดยภาพรวมเห็นควรยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา สนับสนุนการสร้างกำแพงแนวชายแดน และเปิดทางให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

และในขณะเดียวกันยังมีความก้ำกึ่งต่อบทบาทของ พรรคประชาชนว่า จะร่วมประคองรัฐบาลหรือไม่ ในช่วงสถานการณ์การเมือง ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างเข้มข้น

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ