แม่ถูกบุตรฮุบมรดก

14 ก.พ. 2563 เวลา 17:54 น.

เป็นเรื่องที่กำลังพูดถึงกันมากกับเรื่องของนางปุ่น สีสุพันธ์ ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ถูกบุตร 2 คน ยึดมรดกของสามีและไม่ให้อยู่บ้าน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบเป็นบ้านไม้สองชั้นโดยหน้าบ้านได้มีการเขียนข้อความติดฝาผนังบ้านว่า เรียนนายอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอแก้งสนามนาง ที่เคารพดิฉันนางปุ่น สีสุพันธ์ อายุ 75 ปี เดือดร้อนมากบุตรไม่ให้อยู่บ้าน บุตร 2 คนบอกนางปุ่นว่าสมบัติของพ่อเขาไม่ให้สักอย่าง จึงสร้างความเสียใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

นางปุ่น ผู้เป็นแม่เล่าว่า ตนอยู่กินกับสามีมานานจนมีบุตร 4 คน กระทั่งเมื่อปลายปี พศ 2554 สามีไม่อยู่แล้ว และทิ้งสมบัติที่ยังไม่ได้มีการโอนให้ไว้หลายรายการ เช่น รถไถ 1 คัน รถ 6 ล้อ จำนวน 2 คัน โรงสีข้าวบ้านพร้อมที่ดินจำนวน 1 แปลง และที่นากว่า 60 ไร่ วัว 2 ตัว และทรัพย์สินอื่นๆ จนต่อมาบุตร 2 คนได้อ้างว่าพ่อยกสมบัติให้ พร้อมกับไม่ให้อยู่บ้านจนต้องไปอยู่กับบุตรชายคนโต ขนาดบุตรชายคนโตจะเอาอุปกรณ์อิฐ เสาปูนเขามาเพื่อซ่อมบ้านให้แม่อยู่ ยังถูกบุตรชายคนเล็กมาย้ายอุปกรณ์ออกไปโดยอ้างว่าที่ดินตรงนี้พ่อยกให้ตนเอง ร้องเรียนหน่วยงานรัฐไปหลายหน่วย แต่เรื่องก็เงียบหาย เหตุการณ์ดังกล่าวรู้สึกเสียใจให้กับตนอย่างมาก ทำไมบุตรถึงทอดทิ้งแม่อย่างไม่เหลียวแลเหมือนไม่มีค่า

ด้านนายสมัคร สีสุพันธ์ บุตรชายคนโต เปิดเผย ภายหลังเกิดเหตุตนได้พูดคุยกับน้องชายที่ยึดสมบัติของพ่อไป แต่ได้รับเหตุผลว่า หากแม่เป็นผู้จัดการมรดก พี่ชายจะได้ทรัพย์สินมากกว่าบุตรคนอื่น ทั้งที่จริงแล้วตนอยากจะให้แม่แบ่งเท่าๆ กันจะได้ไม่เกิดปัญหาบานปลาย แต่น้องชายก็ไม่ยอมอยากได้ทรัพย์สินมากกว่าคนอื่นจึงเข้าไปเป็นผู้จัดการมรดก ในทางกลับกันน้องอยากได้มรดก แต่กลับทอดทิ้งแม่ที่เลี้ยงมา หลังจากนี้หากผมเป็นอะไรไปใครจะดูแลแม่

ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถามบุตรชายคนเล็กที่ถูกกล่าวว่าฮุบสมบัติ เขาบอกว่าแม่รักพี่ชายมากกว่า หากมีการแบ่งสมบัติคงได้ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ไม่ได้ทอดทิ้งแม่ แต่แม่ไม่อยากมาอยู่กับตนเองเพราะรักพี่ชายมากกว่า