
กรมชลประทาน เตือน 11 จังหวัด ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาสูง ชาวบ้านริมตลิ่งเฝ้าระวังใกล้ชิด
วันที่ 5 ก.ย. 2568 นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 6 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 แห่งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่
อุทัยธานี
ชัยนาท
สิงห์บุรี
อ่างทอง
สุพรรณบุรี
พระนครศรีอยุธยา
ลพบุรี
ปทุมธานี
นนทบุรี
สมุทรปราการ
กรุงเทพมหานคร
กรมชลประทาน คาดการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 5-13 ก.ย. 2568 จะมีน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ราว 1,900-2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาเพิ่มอีก 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 2,000-2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานได้ผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่ง 350-400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 1,500-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำเพิ่มขึ้น 0.30-1.10 เมตร โดยเฉพาะบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
ปัจจุบัน ปริมาณน้ำที่ C.2 นครสวรรค์อยู่ที่ 1,971 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำเหนือเขื่อน 15.54 เมตรรทก. ท้ายเขื่อน 13.08 เมตรรทก. ระดับน้ำห่างจากตลิ่ง 3.26 เมตร ระบายน้ำอยู่ที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
กรมชลประทาน ย้ำ เตือนประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด หากมีน้ำเหนือหลากเพิ่มขึ้นจนต้องระบายเกินกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะรีบแจ้งเตือนโดยทันที