ขนลุก! หลวงพ่อมรณภาพ ร่างเผาไม่ไหม้ ลูกสาวหลั่งน้ำตา หลังพบสาเหตุที่แท้จริง

ขนลุก! หลวงพ่อมรณภาพ ร่างเผาไม่ไหม้ ลูกสาวหลั่งน้ำตา หลังพบสาเหตุที่แท้จริง

วันที่ 4 ก.ย. 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความและถือภาพพระภิกษุรูปหนึ่ง พร้อมระบุว่า ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว หนูจะทวงยุติธรรมให้หลวงตาเอง เงินทุกบาทของหลวงตาหนูจะเอามาให้ได้คืนทุกบาท จากการตรวจสอบ ผู้โพสต์ คือ นางเกศรารินทร์ อายุ 52 ปี ชาว ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์

โดย นางเกศรารินทร์ เล่าถึงสาเหตุที่โพสต์ว่า ภาพดังกล่าวเป็นวันจัดงานวันฌาปนกิจของ พระสัมฤทธิ์ สุชาโต อายุ 80 ปี พระลูกวัด วัดเมืองฝ้าย ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ พ่อของตัวเอง ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านหนองสาม 6 ปี มรณภาพไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งสาเหตุที่โพสต์เพราะคับแค้นใจ ที่พ่อของตัวเองมรณภาพแล้ว ไม่ได้เงินฌาปนกิจหมู่บ้านจำนวนเงิน 10,800 บาท ทั้งที่พ่อเป็นสมาชิกมาตั้งเริ่มก่อตั้งคือปี 2541 และจ่ายเงินสมทบทุกครั้งที่มีคนมาเก็บ แต่ผู้ใหญ่บ้านอ้างว่า สาเหตุที่ไม่ได้ เพราะพ่อย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่วัด แล้วผิดระเบียบหมู่บ้าน

ตนก็พยายามทักท้วงอธิบายว่า สาเหตุที่พ่อจำเป็นต้องย้ายทะเบียนบ้าน เพราะเป็นพระจะต้องย้ายเข้าวัด แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่สนใจ ไม่ยอมจ่ายเงินให้ตน ถึงแม้จะอ้างว่าไม่มีเงินจ่ายค่าของที่มาจัดงานก็ตาม

นางเกศรารินทร์ กล่าวว่า ตอนเผาพ่อ ร่างพ่อไม่ไหม้สัปเหร่อต้องหาฟืนมาเผาเพิ่ม พวกตนลูกหลานต้องบอกพ่อต่อหน้าไฟว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เงินฌาปนกิจ ลูกหลานจะวิ่งเต้นเอาให้จนได้ หลังจากนั้นร่างพ่อก็เริ่มไหม้

นางเกศรารินทร์ เล่าทั้งน้ำตาต่ออีกว่า พ่อจ่ายเงินสมทบหมู่บ้านทุกร่างที่เสียชีวิต ที่มีคนมาเก็บที่บ้าน จำได้ว่าพ่อเริ่มจ่ายเงินสมทบครั้งแรกร่างละ 20 บาท มาจนถึงปัจจุบันร่างละ 100 บาท กรณีผู้ใหญ่บ้านอ้างว่าผิดระเบียบนั้นตนแปลกใจมาก ที่ว่าถ้าผิดระเบียบทำไมต้องส่งคนมาเก็บทุกร่าง หากมีชาวบ้านในหมู่บ้านเสียชีวิต ยอมรับว่าเสียใจมาก เงินจำนวนนี้ถึงแม้ไม่มากมาย แต่เป็นเงินก้อนจำเป็นสำหรับครอบครัวที่จะต้องเอาไปจ่ายค่าของมาจัดงาน

ทั้งนี้ได้มีการสอบถาม นางสาวบุญเลิศ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านหนองสาม ต.เมืองฝ้าย กฎระเบียบต่างๆตนไม่ได้ตั้งขึ้นเอง แต่คณะกรรมการรุ่นนั้นเป็นคนตั้ง ยอมรับว่าเก็บเงินสมทบจากหลวงพ่อทุกรอบ ที่มีชาวบ้านเสียชีวิต แต่คนเก็บอาจจะงง หรือไม่รู้ก็ได้ จึงเก็บมาต่อเนื่อง

น.ส.บุญเลิศ กล่าวว่า มาทราบว่าหลวงพ่อที่มรณภาพ ย้ายทะเบียนบ้านไปแล้ว ซึ่งผิดระเบียบของหมู่บ้าน ตอนนี้อยากให้ลูกสาวของหลวงพ่อหาหลักฐานที่จะยืนยันได้ว่า แบบนี้อนุโลมได้ ตนก็จะเก็บให้ แต่ไม่มีหลักฐานก็จะเดินเรี่ยไรชาวบ้านให้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้เท่าไหร่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ