ช่วงเช้าวันที่ 27 สิงหาคม 2568 พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เบิกตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจ๊อด (จอร์จ) อลงกตตัวปลอม และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยอดีตพระอลงกตในวันดังกล่าวปรากฏตัวด้วยเสื้อแขนยาว กางเกงห้าส่วนสีกรักและผ้าคลุมอีกหนึ่งผืน เดินขึ้นรถด้วยสีหน้ายิ้มแต่ไม่ตอบคำถามใดๆ ของสื่อมวลชน

จากกรณี ก่อนหน้านั้นเวลาประมาณ 03:00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี และนายเสกสันน์ เข้าห้องคุมขัง หลังถูกจับกุมตามหมายจับตั้งแต่คืนวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ระหว่างควบคุมตัวทั้งสองปฏิเสธตอบคำถาม โดยอดีตพระอลงกตเพียงยิ้มตอบ ขณะที่ทั้งคู่มีอาการอ่อนเพลียจากการถูกสอบปากคำนานกว่า 24 ชั่วโมง เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอดีตพระอลงกตอ้างให้การเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ส่วนหมอบียืนยันว่ามีหลักฐานบัญชีรับบริจาคมาโต้แย้งข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนมีความเห็นคัดค้านการประกันตัว และนำตัวส่งศาลในเวลา 10:00 น.

ด้านกระแสสังคม “หนุ่ม กรรชัย” ผู้ดำเนินรายการโหนกระแส ได้เชิญ ศาสตราจารย์ ดร. อุทิส ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา มาร่วมวิเคราะห์ โดย ศ.ดร.อุทิส ระบุว่า เรื่องราวของทิดอลงกตเป็นสิ่งที่สร้างความตื่นตระหนกแก่สาธุชน เพราะสะท้อนให้เห็นถึงการวางแผนที่ซับซ้อนตั้งแต่ก่อนบวช และอาจเป็นพฤติกรรมมิจฉาชีพที่แฝงตัวมานาน ทั้งยังพบว่าเจ้าตัวเคยอ้างอิงเรื่องราวเกินจริงหลายครั้ง เช่น การออกแบบตึกปิโตรนาส หรือประวัติการศึกษาในต่างประเทศ พร้อมย้ำว่า “อาชญากรย่อมทิ้งร่องรอย” ซึ่งในกรณีนี้มีเบาะแสมากมาย ทั้งจากงานเขียนส่วนตัวและคำให้การในอดีต

เกี่ยวกับเรื่องนี้ มหาหมี ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธกองทัพธรรม ได้เปิดเผยข้อมูลอีกว่า "ที่จริงเรื่องนี้ผมเห็นตั้งแต่เมื่อวันที่ผมไล่เรียงวัน เดือน ปีเกิดแล้วก็สรุปได้ว่า ท่านเกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ปี 03 วันนั้นน่ะผมเห็นใบขอบวชก็คือวันที่ 1 ธันวาคมปี 05 ตรงนี้มันเป็นประเด็นหลักพระธรรมวินัยที่อาจารย์พูดว่า ปลอมบวช ผมจะเรียนอย่างนี้ครับว่า ประเด็นก็คือ มันจะมีประเด็นถามเข้ามาว่าหลวงพ่อเป็นพระหรือไม่เข้ามา

แล้วมันจะมีคนโพสต์แล้วนะครับ โดยเฉพาะเมื่อเช้าเนี่ยได้คุยกับทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ท่านก็โทรมาถามผมแต่เช้าเรื่องนี้ประเด็นว่า มหาเห็นประเด็นนี้มั้ย ผมบอกผมเห็นตั้งแต่ 2-3 วันที่แล้วที่ออกมาโหนกระแสแล้ว แต่ว่าผมยังไม่พูด แต่ว่าเริ่มจะมีคนโพสต์ถามในประเด็นก็คือว่าข้อกฎหมายก็คือว่า ถ้าไม่ใช่พระแล้วท่านเป็นเจ้าพนักงานหรือไม่ตรงเนี้ย ด้วยความที่เราเนี่ยเป็นทนายจำเลยในคดีอาญาทุจริตมาตลอด

โดยเฉพาะผมทำคดียาทุจริตมาตั้งแต่ปี 57 เราจะรู้ข้อต่อสู้ฝ่ายจำเลย ก็คือว่าถ้าไม่ใช่เจ้าพนักงานเสร็จแล้วเนี่ยจะเข้าข่ายหรือไม่ แล้วถ้าเป็นเจ้าพนักงานแล้วปฏิบัติโดยไม่มีเจตนาพิเศษจะเข้าข่ายทุจริตหรือไม่ ประเด็นก็คือว่าเอาหลักพระธรรมวินัยคืออย่างนี้ เรื่องพระธรรมวินัยเนี่ยก็คือองค์ของคนที่จะบวชเป็นพระเนี่ยเขาจะต้องมีถามอันตรายิกธรรม การถามอันตรายิกธรรมเนี่ย มันจะมีคำหนึ่งที่บอกว่ากินนาโมสิ ก็คือว่าท่านชื่ออะไร ท่านก็จะขานชื่อท่าน

แล้วทีนี้ชื่อที่ได้มา ติกฺขปญฺโญ เป็นชื่อที่ต้องระบุวัน เดือน ปีเกิด ให้ชัด ทีนี้ผมมีข้อสงสัย ซึ่งสรุปไว้ตั้งแต่วันที่ไล่เรียงแล้วว่าถ้าเกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2503 มันตรงกับวันเสาร์ แต่ทำไมในใบขอบวชปี 29 ท่านไปเขียนว่า วันที่ 1 ธันวาคมปี 05 มันตรงวันเสาร์เช่นเดียวกันนั่นแสดงว่าท่านต้องการใช้ฉายา "ติกฺขปญฺโญ" คือวันเสาร์ แต่บิดกระบวนการบวช ที่เนี่ยปัญหาก็คือว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเนี่ยหลวงพ่ออุปัชฌาย์ท่านไปให้ข่าวสื่อมวลชนปรากฏหลักฐานชัดเจน

ว่าท่านบอกว่าเขาบอกว่าชื่อ "อลงกต" แล้วหลักฐานทุกอย่างมาจากปากของ อลงกต ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นคนที่บวชเนี่ยไม่ใช่ เกรียงไกร แต่คือ อลงกต ตรงนี้เป็นหลักพระธรรมวินัยก็คือว่าในการบวชนั้นนะครับ เขาจะต้องไม่สมมติตัวตนต้องเอาตัวตนที่แท้จริง ถ้าสมมุติตัวตนขึ้นมามันจะกลายเป็นวัตถุวิบัติ หรือก็คือ บุคคลหรือวัตถุซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งสังฆกรรมนั้นๆ ขาดคุณสมบัติ ทำให้สังฆกรรมเสีย ใช้ไม่ได้"

อย่างไรก็ตาม ความสงสัยก็ได้คลี่คลายมาแล้ว หนึ่งอย่างว่า สรุป ทิดอลงกต อายุเท่าไหร่กันแน่ หลังจากที่มีข้อถกเถียงเรื่องวันเกิด พร้อมทั้งยังสวมชื่อผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วอีกด้วย ดังนั้น ประเด็นนี้สรุปได้แบบชัดเจนแล้วว่า ทิดอลงกต หรือ ทิดจอร์จ อายุ 65 ปี 6 เดือน 24 วัน