
ครม.เทงบหลายหมื่นล้าน สร้างบังเกอร์-เยียวยาคนชายแดน เคาะทางด่วนภูเก็ต เดินหน้าสวัสดิการบัตรคนจน
วันนี้ 26 ส.ค. นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบกลางรวมกว่า 1,700 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
ในจำนวนนี้ แบ่งเป็นงบ 194 ล้านบาท สำหรับการสร้างบังเกอร์ หลุมหลบภัย และหอกระจายข่าว อีกกว่า 1,516 ล้านบาท ใช้ในการเยียวยาประชาชนที่ต้องอพยพ โดยจะจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์
อพยพไม่เกิน 7 วัน:ครัวเรือนละ 2,000 บาท
อพยพตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป:ครัวเรือนละ 5,000 บาท
นางศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ครม. อนุมัติให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เดินหน้าก่อสร้างทางด่วนช่วงกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ด้วยตนเอง หลังไม่มีเอกชนสนใจร่วมทุน
เปลี่ยนรูปแบบลงทุนจาก PPP เป็น Design&Build ใช้งบลงทุนกว่า 10,964 ล้านบาท ซึ่ง กทพ. จะจัดหาเงินทุนเองผ่านการกู้ยืมหรือออกพันธบัตร
ที่ประชุม ครม. มีมติให้ โอนงบประมาณที่เหลือจากโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประมาณ 26,000 ล้านบาท ไปสมทบในกองทุนสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนสิ้นปีงบประมาณ
รวมถึงอนุมัติงบเพิ่มเติม 2,900 ล้านบาท ให้กองทุนประชารัฐสวัสดิการ เพื่อสนับสนุนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 13.45 ล้านคน ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2568
รายการสวัสดิการที่ยังคงได้รับ เช่น
ค่าครองชีพ 300 บาทต่อเดือน (สินค้าอุปโภค/เกษตร/ศึกษา)
ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ทุก 3 เดือน
ค่าเดินทาง 750 บาท/เดือน
อุดหนุนค่าไฟไม่เกิน 315 บาท/ครัวเรือน
อุดหนุนค่าน้ำไม่เกิน 100-315 บาท/ครัวเรือน
เพิ่มเบี้ยผู้พิการ จาก 800 เป็น 1,000 บาท/เดือน
นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้ รถยนต์ใช้แล้วที่มีอายุเกิน 100 ปี ต้องขออนุญาตก่อนนำเข้า เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ารถเก่าเกินมาตรฐาน และส่งเสริมไทยให้เป็นศูนย์กลางจัดแสดงรถโบราณระดับภูมิภาค สร้างซอฟต์พาวเวอร์ด้านวัฒนธรรมยานยนต์ของไทย