25 ส.ค. 2568 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ปี 2568 ถึงประเด็นการเปิดโครงการสมัครใจลาออกสำหรับกลุ่มแรงงานอายุ 45 ปีขึ้นไปว่า สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับโครงสร้างขององค์กรที่ต้องการลดต้นทุน โดยเปลี่ยนไปใช้แรงงานรุ่นใหม่ซึ่งมีค่าจ้างต่ำกว่าเดิม

แม้มาตรการดังกล่าวจะเป็น ความสมัครใจ แต่เลขาธิการ สศช. เตือนว่า แรงงานที่เลือกลาออกควรพิจารณาให้รอบด้าน โดยเฉพาะการวางแผนชีวิตหลังออกจากงาน เพราะเงินชดเชยจากโครงการไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายจนถึงช่วงบั้นปลายชีวิตได้ หากไม่มีอาชีพสำรองหรือรายได้ที่มั่นคงเพิ่มเติม

ปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้น และสวัสดิการรัฐไม่สามารถครอบคลุมได้ทั้งหมด หากออกจากงานแล้วไม่มีแผนชัดเจนว่าจะทำอะไรต่อ ก็อาจกลายเป็นภาระในอนาคต การจะออกหรือไม่ จึงต้องคิดให้ดีว่าออกไปแล้วจะเลี้ยงชีพอย่างไร นายดนุชา กล่าว

นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงภาพรวมตลาดแรงงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่มีแนวโน้มการจ้างงานแบบสัญญาจ้างและพาร์ทไทม์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจต่างๆ เลือกจ้างแรงงานในลักษณะชั่วคราวเพื่อลดต้นทุน ขณะเดียวกันการพัฒนาเทคโนโลยีก็เอื้อให้เกิด Gig Economy หรือการรับงานอิสระหลายประเภทในเวลาเดียวกันมากขึ้น

รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปตามเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ผู้ที่อยู่ในตลาดแรงงานต้องปรับตัว เตรียมพร้อมทั้งทักษะและแผนชีวิตเพื่อให้สอดรับกับโอกาสใหม่ที่เกิดขึ้นในอนาคต เลขาธิการ สศช. กล่าวทิ้งท้าย