
ทนายดัง จ่อพาผู้ถวายเงิน 5 ล้าน กับพระอลงกต เข้าแจ้งความ ชี้อาจผิดกฎหมายร้ายแรง
วันที่ 24 ส.ค.2568 นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
ในวันพรุ่งนี้ทนายรณณรงค์พาผู้บริจาคเงินวัดพระบาทน้ำพุที่ถวายเป็นปัจจัยสดๆ ไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน ถวายคามือพระอลงกต เข้าแจ้งความที่กองปราบ หลังจากยื้อกันมาหลายอาทิตย์ไม่มีใครยอมพูดสักทีว่าเงินบริจาคถูกนำไปใช้จ่ายต้องตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาคหรือไม่
ซึ่ง ทนายรณณรงค์ ยังได้ระบุเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นประเด็นสำคัญทางกฎหมาย ดังนี้
1.การใช้ชื่อ เลขบัตรประชาชนของผู้อื่น หากพิสูจน์ได้ว่าเลขบัตรประชาชนที่ใช้เปิดบัญชีบริจาค เป็นของบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว การนำมาใช้ถือว่าเป็นความผิดฐาน ปลอมและใช้เอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267-268 โทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี
2.ใบอนุโมทนาบัตรไม่ตรงมูลนิธิหรือวัตถุประสงค์ กรณีประชาชนโอนเงินเข้ามูลนิธิหนึ่ง แต่กลับได้รับใบอนุโมทนาบัตรในชื่ออีกมูลนิธิ หรือระบุวัตถุประสงค์ไม่ตรงกัน เข้าข่ายความผิดฐาน ปลอมเอกสาร และอาจเชื่อมโยงไปถึง ฉ้อโกงประชาชน
3.การเรี่ยไรโดยเจตนาบิดเบือน หากโฆษณาชวนเชื่อว่าบริจาคเพื่อซื้อยารักษาผู้ป่วย HIV ทั้งที่ความจริงผู้ป่วยส่วนใหญ่ใช้สิทธิบัตรทอง เบิกยาฟรีจากรัฐ อาจเข้าข่าย ฉ้อโกงประชาชน มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
4.ความผิดที่อาจลามไปถึงฟอกเงิน ถ้าเงินบริจาคได้มาจากการฉ้อโกง แล้วนำไปหมุนเวียนต่อ อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งมีโทษร้ายแรงยิ่งขึ้น
5.บทบาทของธนาคาร ธนาคารที่เปิดบัญชีด้วยเลขบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต โดยไม่ตรวจสอบให้รอบคอบ อาจถูกสอบสวนว่ามีความบกพร่องหรือเอื้อให้เกิดความผิด