พรีวิวพรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ VS สเปอร์ส เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทาง MONOMAX สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม

แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านรับมือ สเปอร์ส บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกค่ำนี้ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงหลังถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-0 เตรียมเปิดบ้านเจอ ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ประเดิมแรงไม่แพ้กัน หลังเปิดบ้านต้อน เบิร์นลี่ย์ 3-0 ซึ่งย้อนกลับไปฤดูกาลก่อน สเปอร์ส เคยโค่นแชมป์เก่าทั้งไปและกลับ สร้างความกดดันก่อนเกมนี้ไม่น้อย

ความพร้อมของทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะไม่มี มาเตโอ โควาชิช, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล และ ซาวินโญ่ ที่มีข่าวกับ สเปอร์ส ก่อนตลาดปิด แต่ข่าวดีคือ โรดรี้ กับ ฟิล โฟเด้น อาจคัมแบ็กได้ ส่วน เอแดร์ซอน แม้หายป่วยแล้ว แต่โอกาสลงต่ำกว่า เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด นายทวารที่โชว์ฟอร์มเก็บคลีนชีตเกมก่อน แนวรับนำโดย รูเบน ดิอาส ที่เพิ่งต่อสัญญาถึงปี 2029 ร่วมกับ จอห์น สโตนส์ แดนกลางใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา, นิโก้ กอนซาเลซ และ ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส ที่ลุ้นสร้างสถิติยิง-จ่ายครบใน 2 เกมแรกของพรีเมียร์ลีก แนวรุก โอมาร์ มาร์มูช มีลุ้นเบียด เฌเรมี่ โดกู ลงประสาน ออสการ์ บ๊อบบ์ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ เจ้าของสถิติสุดโหด ยิง 48 ประตูจาก 48 เกมเหย้าพรีเมียร์ลีก

สเปอร์ส โธมัส แฟร้งค์ กุนซือใหม่ยังไม่มี เจมส์ แมดดิสัน, ราดู ดรากูชิน, เดยัน คูลูเซฟสกี้, เดสตินี่ อูโดกี้, มานอร์ โซโลม่อน และ โคตะ ทาคาอิ ที่เจ็บยาว แต่อาจได้ อีฟส์ บิสซูม่า กลับมาเสริมแดนกลาง แผนการเล่นอาจปรับมาใช้หลังสามแบบเดียวกับเกมยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ที่เคยนำก่อนพลาดท่า โดย เควิน ดานโซ่ ลงช่วยแนวรับร่วมกับ คริสเตียน โรเมโร่ และ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น แดนกลาง ปาลินญ่า ที่ยืมจากบาเยิร์นจับคู่ เบนตานกูร์ มี ป๊าป ซาร์ กับ โมฮัมเหม็ด กูดุส ขับเคลื่อนเกมรุก สนับสนุน ริชาร์ลิซอน ที่กดเบิ้ลมาในนัดก่อน

11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด-มาเตอุส นูเนส,จอห์น สโตนส์,รูเบน ดิอาส,ไรยัน เอต์-นูรี-แบร์นาร์โด้ ซิลวา,นิโก้ กอนซาเลซ,ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส-ออสการ์ บ๊อบบ์,เออร์ลิง ฮาลันด์,โอมาร์ มาร์มูช

สเปอร์ส (3-4-2-1) กูเยลโม่ วิคาริโอ-เควิน ดานโซ่,คริสเตียน โรเมโร่,มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น-เปโดร ปอร์โร่,โรดริโก้ เบนตานกูร์,ชูเอา ปาลินญ่า,เจด สเปนซ์-ป๊าป มาตาร์ ซาร์,โมฮัมเหม็ด กูดุส-ริชาร์ลิซอน

แม้ แมนฯ ซิตี้ จะเริ่มต้นฤดูกาลได้สวย แต่สถิติการเจอกับ สเปอร์ส ในเอติฮัด ไม่ง่ายเลย โดย 4 นัดหลังสุดมีสกอร์รวมถึง 21 ประตู และ ไก่เดือยทอง ยิงได้อย่างน้อย 2 ลูกทุกเกม ขณะที่ โธมัส แฟร้งค์ เองก็มีสถิติที่ดีในการบุกมาที่นี่สมัยคุมเบรนท์ฟอร์ด

อย่างไรก็ดี เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังเหนือกว่าด้วยความหลากหลายของเกมรุก และตัวเปลี่ยนเกมในมือ เชื่อว่าหากไม่พลาดง่าย เรือใบสีฟ้าน่าจะเบียดเก็บ 3 แต้มได้แบบหืดจับ