เล่านาทีชีวิต น้องเต้ย ผู้เสียสละดวงตาข้างซ้าย ปกป้องชาติ จากชายแดน

เล่านาทีชีวิต น้องเต้ย ผู้เสียสละดวงตาข้างซ้าย ปกป้องชาติ จากชายแดน

พลทหารตะวัน สิงห์เรือง หรือน้องเต้ย อายุ 21 ปี ชาว ต.ประชาสุขสันต์ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร สังกัด ร.4 พัน 1 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ได้เปิดเผยว่า หลังได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบถูกลูกระเบิดที่ภูมะเขือ จ.อุบลฯ เมื่อ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ทำให้มีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาข้างซ้าย หลังได้รับการรักษา และพักฟื้นแต่ดวงตาข้างซ้ายยังไม่สามารถมองเห็นได้ปกติ แม้ดวงตาจะกลับมามองเห็นได้ไม่เหมือนเดิม ในฐานะทหารภูมิใจที่มีส่วนร่วมในการปกป้องประเทศไทย แต่ยังอยากจะทำตามความฝันรับใช้ชาติเป็นทหารต่อไปด้วยใจรัก ขณะนี้ก็ได้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐเป็นอย่างดี

ล่าสุด วันที่ 18 ส.ค.68 เวลา 16.30 น. มีการเดินทางไปเยี่ยม ที่ บ้าน ต.ประชาสุขสันต์ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ของ พลทหารตะวัน สิงห์เรือง อายุ 21 ปี เล่าด้วยความภาคภูมิใจ ว่า ในช่วงเกิดเหตุปะทะกันอย่างดุเดือด ระหว่างกองกำลังทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่ภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย โดยหนึ่งในนั้นคือตนเอง ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจนสูญเสียการมองเห็นที่ตาข้างซ้าย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่พลทหารตะวัน กำลังปฏิบัติหน้าที่สำคัญปกป้องอธิปไตย จากนั้นมีลูกระเบิดยิงจากฝั่งตรงข้ามตกลงมา ทำให้พลทหารตะวันและเหล่ากล้าได้รับบาดเจ็บ

พลทหารตะวัน สิงห์เรือง เล่าต่ออีกว่า หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ก็ได้เดินทางกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน ซึ่งมีเพียงดวงตาข้างขวาเพียงอย่างเดียวที่ใช้มอง ส่วนข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิด และขาข้างขวากระดูกแตกเดินไม่คล่อง ยามนอนหลับจะมีอาการเพ้อสะดุ้งตื่นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้นอนไม่หลับ ตนไม่เสียใจ เพราะมันคือการทำหน้าที่ของลูกผู้ชายไทยที่ได้ปกป้องผืนแผ่นดินไทย

ซึ่งในส่วนของสถานการณ์การพูดรบตอนนี้ยังไม่จบตนยังอยากที่จะกลับไปช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยกันในการป้องกันประเทศแต่ติดตรงเรื่องของอาการเจ็บที่ตาซึ่งต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ ซึ่งในช่วงก่อนที่จะถูกเรียกตัวไปแนวหน้าตนได้พูดคุยกับเพื่อนว่า หากถูกเรียกตัวไปแนวหน้าตนเองก็อยากไปเต็มใจที่จะไปช่วย โดยเหตุการณ์ในวันที่ถูกระเบิดถล่ม ตนเองและเพื่อนทหารคนอื่นนั่งหลบอยู่ในคูเวต

ซึ่งทหารรุ่นน้องก็ได้ปรับวิทยุซึ่งก็อาจไม่รู้ว่าข้าศึกฝั่งตรงข้ามจะสามารถระบุพิกัดโจมตีได้ ซึ่งหลังจากถูกระเบิดก็หมดสติทุกคน จนมีหัวหมู่มาปลุกตนให้ตื่น ซึ่งก็ได้ช่วยทหารรุ่นน้องให้หลบเข้ามาในหลุมโดยตนเองได้ใช้ตัวกันไว้ ซึ่งหากหายดีแล้ว ตนก็อยากกลับไปทำหน้าที่ช่วยเหลือแนวหน้าให้จบ เพราะเป็นความฝันของชายชาติทหารที่จะไม่ยอมให้เขมรมาทำร้ายคนไทยเด็ดขาด

ทางด้าน นางศรสวรรค์ คล่องแคล่วมีชัย อายุ 43 ปี ป้าของ พลทหารตะวัน สิงห์เรือง เล่าว่า สภาพจิตใจของน้องตอนนี้ไม่ดีนัก ภายนอกอาจจะดี แต่ภายในตนในฐานะที่เลี้ยงพลทหารตะวันมาตั้งแต่เด็ก สภาพมีความกังวลหวาดระแวง พอได้ยินเสียงอะไรจะมีความผวาขาจะขยับตลอดเหมือนวิ่งไปไหนสักแห่ง ส่วนมือจะปกป้องที่ใบหน้า แล้วจะได้ยินเสียงพูดออกมาให้ทุกคนหลบ ซึ่งได้พบแพทย์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพลทหารตะวันจะกลับมาด้วยการเสียดวงตา ตนเองมีความภาคภูมิใจที่พลทหารตะวัน ได้รับใช้ชาติอย่างลูกผู้ชายชาติทหาร

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ