วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย หลังเพจเฟซบุ๊ก กองทัพบก ทันกระแส เผยแพร่ภาพและข้อมูลระบุว่า ทหารไทยได้เข้าไปเก็บกวาดและทำความสะอาดพื้นที่สนามรบในบริเวณ ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเคยเป็นจุดปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา

โดยระหว่างภารกิจดังกล่าว ทหารช่างจาก กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจกับ กองทัพภาคที่ 2 ได้พบ สรรพาวุธจำนวนมากที่เชื่อว่าเป็นของกัมพูชา ที่ถูกทิ้งหรือฝังไว้ในพื้นที่ โดยเฉพาะทุ่นระเบิดสังหารบุคคลรุ่น PMN-2 ซึ่งยังอยู่ในสภาพใหม่หลายชิ้น

ข้อความที่โพสต์ในเพจระบุว่า ไหน! เฮง รัตนา (โฆษกกองทัพกัมพูชา) บอกไม่ใช้ทุ่นระเบิด แต่ไทยยึดได้เยอะมาก แสดงความไม่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ของกัมพูชาที่ปฏิเสธการใช้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน

ในขณะเดียวกัน เพจ ชุมชนคนสุรินทร์ ก็ได้นำเสนอข้อมูลสนับสนุน โดยโพสต์ภาพและข้อความใน 3 ภาษา (ไทย เขมร อังกฤษ) เพื่อยืนยันว่า กัมพูชายังคงใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 อยู่จริงในสนามรบ พร้อมแสดงภาพหลักฐานที่อ้างว่าเป็นวัตถุที่ทหารไทยค้นพบระหว่างเคลียร์พื้นที่

ทุ่นระเบิด PMN-2 เป็นชนิดที่มีอานุภาพรุนแรงสูง และถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาวุธต้องห้ามตามสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ซึ่งหลายประเทศ รวมถึงไทย ลงนามไว้ อย่างไรก็ตาม ที่กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการเคลียร์ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน อาจเป็นเพราะยังต้องการใช้เป็นเครื่องมือทางการทหาร

ทหารเจอทุ่นระเบิด