วันที่ 7 ส.ค. 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนลาดตระเวน เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ที่จำเป็นจากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ซึ่งนำโดยนายปานเทะ พัวพงษ์พันธ์ เพื่อส่งต่อให้กำลังพลประจำแนวชายแดน

พลโทบุญสินกล่าวว่า ในนามของกองทัพบก ในฐานะผู้แทนของผู้บัญชาการทหารบก และในฐานะหน่วยปฏิบัติของกองทัพภาคที่ 2 ขอขอบคุณมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นขวัญกำลังใจสำคัญสำหรับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศตามแนวชายแดน

อุปกรณ์ที่ได้มอบให้วันนี้เป็นความจำเป็น ซึ่งเราจะเห็นว่าเป็นการรบสมัยใหม่ ไม่มีเวลาที่จะไปจัดซื้อจัดหาตามระบบราชการ ก่อนจะเข้าสู่ระบบงบประมาณต้องใช้เวลานาน พวกเราได้อุปกรณ์เหล่านี้ จากกลุ่มพลังเพื่อแผ่นดิน ยามเฝ้าแผ่นดิน และประชาชนทั่วประเทศ ที่ได้มีส่วนร่วมก็ในการปกป้องประเทศชาติ

สำหรับสิ่งของเหล่านี้ตนจะรีบนำไปให้ทหารแนวหน้าใช้ป้องกันตัวเอง ลาดตระเวน รักษาเขตแดนประเทศไทย ถือว่าไม่ใช่เรื่องกองทัพอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของประเทศไทย ถ้าความมั่นคงไม่มี พี่น้องคนไทยก็อยู่ยาก ไม่ใช่เรื่องทหาร แต่เป็นเรื่องของคนไทยทั้งประเทศ

ขอบคุณคนไทยที่ทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้ไปบอกเล่าให้ทหารแนวหน้าได้รับทราบ ว่ามีพี่น้องคนไทยที่อยู่แนวหลัง ส่งกำลังใจและอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นมาให้อย่างต่อเนื่อง จะทุ่นแรงน้องๆ ได้เป็นอย่างดี จากการที่ตนได้เยี่ยมทหารที่หน้ามีแนวขวัญกำลังใจดี

นอกจากนี้ ตนจะประสานงานกับหน่วยในพื้นที่เพื่อสอบถามความต้องการในสิ่งที่ขาดแคลน ซึ่งสิ่งที่จำเป็นคืออุปกรณ์เทคโนโลยีและเครื่องนุ่มห่ม ซึ่งเป็นของใช้สิ้นเปลืองในช่วงหน้าฝน

เมื่อถามว่าวันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พล.ท.บุญสิน เชื่อว่าจะดีขึ้นและจะจบด้วยดี

เมื่อถามว่าได้ประเมินท่าทีของกัมพูชาอย่างไรว่าจะทำตามข้อตกลงในการประชุม GBC พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ในความคิดของตน ทิศทางน่าจะเป็นไปในทางที่ดี ส่วนการดำเนินการต่อจากนี้ต้องรอให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการรมว.กลาโหม แถลงผลทั้งหมดก่อน ซึ่งตอนนี้ตนก็รอคำชี้แจงเป็นอย่างเป็นทางการ ในสิ่งที่ได้ไปลงนามกัน

พล.ท.บุญสิน กล่าวย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่นๆ ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องพูดคุยกัน เช่นการหยุดยิง ซึ่งเราก็ได้พูดคุยกันอยู่แล้ว และสถานการณ์ต่อจากนี้ก็ได้เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้

เมื่อถามกรณีกองกำลัง BHQ หรือองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน สายลับของกัมพูชาที่เข้ามาสอดแนมในไทย และมีการจับกุมได้ที่ จ.บุรีรัมย์ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เราก็ต้องสืบสวนต่อไปตามขั้นตอนว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง

ซึ่งทุกพื้นที่ตนไม่ประมาท และได้เรียนผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.จังหวัด ให้มีความตื่นตัวและเฝ้าระวังร่วมกัน

เมื่อถามว่าคนที่สามารถจับกุมได้ที่ จ.บุรีรัมย์ ยืนยันได้หรือไม่ว่ามาจากกองกำลัง BHQ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า รอการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าทหารหน้าแนวมีขวัญและกำลังใจดี พร้อมปกป้องอธิปไตย เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน

“ยืนยันว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้กังวลอะไร หากคุยกันเข้าใจก็ไม่มีอะไร แต่หากคุยกันแล้วไม่เข้าใจก็พร้อมปกป้องอธิปไตยของเราต่อ” พล.ท.บุญสิน กล่าว

เมื่อถามว่า ทางพล.อ.ณัฐพล ระบุว่ากัมพูชาได้แสดงความจริงใจในระดับหนึ่ง ส่วนทางทหารได้ประเมินความจริงใจหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ก็ประเมินอยู่แต่เราไม่ประมาท แต่อย่างไรก็ตามเราต้องมีความจริงใจก่อน

พล.ท.บุญสิน กล่าวถึงการที่ทหารไทยวางรั้วลวดหนามใหม่ที่ช่องอานม้า หลังกัมพูชาเข้ามาตัดรั้วว่า คนกัมพูชาเข้ามาทำคอนเทนต์ เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ออกจากพื้นที่ไป พร้อมวางรั้วลวดหนามใหม่ เพื่อป้องกันฐานที่มั่นของเรา สร้างความเข้มแข็งในพื้นที่ที่เราควบคุมอยู่ ส่วนในอนาคตจะมีกิจกรรมลักษณะนี้อยู่เรื่อยๆ หรือไม่นั้น มองว่าไม่มีปัญหา เราต้องห้ามอย่างเด็ดขาด แต่ข้อดีคือเขาไม่ได้นำอาวุธขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าทุ่นระเบิดในพื้นที่ยังมีจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ประสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จะต้องประสานกับทางกัมพูชาในการเก็บกู้

พล.ท.บุญสิน กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ทหารกัมพูชาป่วยหนักเป็นไข้มาลาเรียนั้น ตนได้เห็นจากสื่อของกัมพูชา ซึ่งเป็นหน้าที่แต่ละฝ่ายในการดูแลกำลังพลของตัวเอง ซึ่งฝ่ายไทยก็มีแพทย์สนามดูแลอยู่แล้ว โรงพยาบาลอำเภอ ในแต่ละจังหวัดก็พร้อมสนับสนุน ซึ่งตอนนี้ทหารไทยยังไม่มีการเจ็บป่วย

ส่วนการเก็บร่างของทหารกัมพูชา จากที่ตนลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ยังเห็นอยู่ แต่ได้ประสานกับทางกัมพูชาแล้วให้มาเก็บร่างผู้เสียชีวิตไป ซึ่งทางกัมพูชาได้ตอบรับมาแล้ว ยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาต้องมาเก็บเองเราจะไม่เก็บให้ เพราะกระทบต่อมลภาวะทางอากาศของทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา แต่หากเขาไม่ยอมเก็บเราก็มีมาตรการในการดับกลิ่น

เมื่อถามกรณีสมเด็จฮุนเซน โพสต์ข้อความไม่อยากให้ไทยใช้ F-16 ในการปฎิบัติการ และขอร้องนานาชาติไม่ให้ขายเครื่องบินรบให้กับไทย พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของเรา เขาขอไม่ให้ใช้ก็ไม่เป็นไร แต่เราจะใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของเรา

พล.ท.บุญสิน กล่าวต่อว่า ส่วนข่าวการลอบสังหารสมเด็จฮุนเซนและฮุนมาเนตนั้น เป็นข่าวที่ออกมาจากสื่อของกัมพูชา เราไม่ได้ปฏิบัติอยู่แล้ว