
คะแนนร่วงหนัก! ดัชนีการเมืองไทยดิ่งสุดในรอบปี - นายกฯ โดนลดความเชื่อมั่น ฝ่ายค้านคะแนนพุ่ง
จากสถานการณ์ที่ผ่านมา ล่าสุด สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 2,171 คน ในหัวข้อ ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 พบว่า คะแนนภาพรวมของดัชนีการเมืองลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 3.86 คะแนน จากคะแนนในเดือนมิถุนายนที่เคยอยู่ที่ 4.13 คะแนน โดยปัจจัยสำคัญที่ฉุดคะแนนคือปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ยังคงรุมเร้า
จุดที่น่าจับตามองคือ คะแนนความเชื่อมั่นต่อ นายกรัฐมนตรี ตกลงมาอยู่ที่เพียง 3.43 คะแนน ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบปี ขณะที่คะแนนของ ฝ่ายค้าน พุ่งขึ้นแตะ 4.36 คะแนน สะท้อนภาพความไม่พอใจต่อรัฐบาลและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นต่อบทบาทการตรวจสอบของฝ่ายตรงข้าม
นักการเมืองดาวเด่นที่ประชาชนจับตามองฝ่ายรัฐบาล:
นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดที่ 44.05% ผลงานโดดเด่นคือการจัดทำหนังสือชี้แจงต่อองค์การสหประชาชาติ (UN)
นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้รับคะแนน 29.85%
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับคะแนน 26.10%
ฝ่ายค้าน:
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดที่ 45.79% โดยประชาชนมองว่าบทบาทตรวจสอบรัฐบาลเป็นจุดแข็ง (40.28%)
นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับคะแนน 28.28%
น.ส.รักชนก ศรีนอก ได้รับคะแนน 25.93%
เหตุชายแดน-เศรษฐกิจ ฉุดศรัทธารัฐบาล
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล อธิบายว่า วิกฤตการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาส่งผลให้ประชาชนเกิดความรู้สึกไม่มั่นคงทั้งด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ปัญหาเศรษฐกิจอย่างค่าครองชีพสูง น้ำท่วม และการบริหารจัดการที่ล่าช้าของภาครัฐ ยิ่งซ้ำเติมความไม่พอใจของประชาชน
ผศ.กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ว่า เหตุการณ์สะเทือนวงการการเมืองในเดือนกรกฎาคม เช่น ข่าวการทุจริตในวงการสงฆ์ คลิปเสียงหลุดของนักการเมือง รวมถึงการเจรจาที่สหรัฐฯ และสถานการณ์ชายแดน ล้วนส่งผลกระทบในภาพรวมอย่างชัดเจน
เหตุปะทะชายแดนทำให้ประชาชนรู้สึกสูญเสียทั้งทางกายและใจ ขณะที่การสื่อสารของรัฐบาลยังเชื่องช้าและไม่ตอบโจทย์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นถดถอย และยังไม่เห็นแผนฟื้นฟูในระยะใกล้ ผศ.กัญญกานต์ กล่าว