วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ศิลปินฮิปฮอประดับตำนานของไทย โจอี้ บอย (Joey Boy) ได้ออกมาแสดงจุดยืนผ่าน โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยถ้อยคำที่เรียบง่ายแต่เฉียบคม สะท้อนความรู้สึกต่อความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น และจุดกระแสถกเถียงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์

ข้อความจากโจอี้ บอย ระบุไว้ว่า:

Would you rather trust a country that MuayThai fights you and then bow to you out of respect or One that keeps making things up and calling you just to SCAM your money?

มึxจะเชื่อประเทศที่ต่อยกับมึงเสร็จแล้วก้มกราบมึงด้วยความเคารพ หรือประเทศที่คอยปั้นเรื่องโทรมาหลอกเอาเงินมึxดีวะ?

ข้อความดังกล่าวถูกตีความได้หลากหลาย แต่ประเด็นหลักชี้ให้เห็นถึงการเปรียบเทียบระหว่าง ความขัดแย้งที่ยังมีเกียรติ กับ พฤติกรรมที่ไม่น่าไว้ใจ โดยแม้จะไม่ได้ระบุชื่อประเทศใดโดยตรง แต่ด้วยสถานการณ์ชายแดนที่กำลังร้อนระอุ ทำให้หลายคนเชื่อว่าโพสต์นี้สะท้อนมุมมองต่อสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงเวลานี้

ภาพโพสต์จากApisit Joeyboy Opasaimlikit

หลังจากโพสต์เผยแพร่ออกไป ก็มีแฟนคลับและผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวนมากเข้ามากดไลก์และแสดงความเห็นสนับสนุนโจอี้ บอย โดยหลายคนระบุว่า ได้ใจมาก, พูดแทนใจคนไทยทั้งประเทศ ไปจนถึง เอาไปทำเพลงเลยเฮีย!

คอมเมนต์ยอดฮิตจากแฟน ๆ เช่น:

โคตรดีใจ เอาซะเพลงนะเฮีย

เฮียว่างัย ผมก็ว่างั้นครับ

ได้ใจความสุด ๆ แล้ว

โพสต์ดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของศิลปินคนหนึ่งเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหนึ่งใน เสียงสะท้อนจากสังคม ที่บ่งบอกความอึดอัดและความกังวลของประชาชนในช่วงที่ประเทศเผชิญกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

ณ เวลานี้ยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากศิลปินหรือบุคคลสาธารณะของกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับโพสต์ของโจอี้ บอย ขณะที่การแสดงออกของศิลปินไทยจำนวนมาก รวมถึงนักร้อง นักแสดง และอินฟลูเอนเซอร์ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของประชาชนและสื่อมวลชน

การแสดงจุดยืนของโจอี้ บอยครั้งนี้ ตอกย้ำบทบาทของศิลปินในฐานะ กระบอกเสียงของสังคม และเป็นอีกครั้งที่แวดวงดนตรีไทยกลายเป็นพื้นที่สะท้อนความคิดเห็นทางสังคมและการเมืองที่ทรงพลัง