
สรุปแล้ว!! ผลการประชุมที่มาเลย์ฯ ไทย-กัมพูชา เต็มใจที่จะหยุดยิงทันที มีผลเที่ยงคืนนี้
รายงานความคืบหน้าการหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กรุงปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ตามคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ผู้นำกัมพูชา กับคณะเจ้าหน้าที่ เดินทางถึงมาเลเซียแล้วและจะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในข้อพิพาทชายแดนซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ห้า
นอกจากคณะผู้แทนของสองประเทศคู่กรณีแล้ว เจ้าหน้าที่มาเลเซียเปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำมาเลเซียและเอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซียจะเข้าร่วมการหารือที่บ้านพักของนายอันวาร์ในกรุงปุตราจายา
ล่าสุด บีบีซี เอพี และรอยเตอร์รายงานความคืบหน้าการหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กรุงปุตราจายา เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ตามคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนว่า นายอันวาร์กล่าวหลังการหารือโดยเริ่มต้นด้วยการแสดงความชื่นชมและขอบคุณต่อผู้นำไทยและกัมพูชาที่เดินทางมาร่วมการเจรจาในครั้งนี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แสดงจุดยืนและความเต็มใจที่จะหยุดยิงทันที ไทยและกัมพูชาจะหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น
“นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งสู่การลดความตึงเครียดและการฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง” นายอันวาร์กล่าว.
ขณะที่นายฮุน มาเนต กล่าวถึงการเจรจาครั้งนี้ว่าเป็น “การประชุมที่ดีมาก” และหวังที่จะยุติการสู้รบโดยทันที
จากนั้นเสริมว่ามีผู้พลัดถิ่นจากทั้งสองฝ่ายมากถึง 300,000 คน นายกฯ กัมพูชายังกล่าวขอบคุณนายอันวาร์ รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลจีนที่มีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ย พร้อมทั้งขอบคุณนายภูมิธรรม ผู้แทนไทยของเขาสำหรับการมีส่วนร่วมอย่าง “สร้างสรรค์” ในการเจรจาครั้งนี้
นายอันวาร์ยัง กล่าวอีกว่า เช้าวันรุ่งขึ้นหลังการหยุดยิงมีผลบังคับใช้ ผู้บัญชาการทหารจะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 07.00 น. ของวันอังคารที่ 29 ก.ค. จากนั้นจะมีการประชุมผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหมนำโดยประธานอาเซียนในวันที่ 4 ส.ค. นายฮุน มาเนต กล่าวว่ามั่นใจว่าผลลัพธ์จากการเจรจาจะเปิดโอกาสมากมายให้ประชาชนหลายแสนคนทั้งสองฝ่ายได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ และว่าถึงเวลาแล้วที่จะ “เริ่มสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัมพูชาและไทยขึ้นใหม่