ทูตกัมพูชากล่าวหลังประชุม บีบีซี และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า กัมพูชาเรียกร้องให้มีการ หยุดยิงโดยทันที หลังการสู้รบข้ามพรมแดนระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังยืดเยื้อ

นายเจีย แก้ว เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรกัมพูชาประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่ากัมพูชาร้องขอให้มีการหยุดยิง โดยไม่มีเงื่อนไข และเสริมว่าต้องการทางออกข้อพิพาทโดยสันติ อย่างไรก็ตาม ไทยยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อข้อเสนอการหยุดยิงดังกล่าว แต่มีการส่งสัญญาณถึงการเปิดกว้างต่อการเจรจาเช่นกัน

“กัมพูชาขอให้หยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และเราขอเรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ” นายเจีย แก้ว กล่าวหลังการประชุมลับของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ซึ่งมีกัมพูชาและไทยเข้าร่วมเมื่อวันที่ 25 ก.ค.

รายงานระบุด้วยว่ามีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่องจากชายแดนฝั่งกัมพูชา โดยจังหวัดอุดรมีชัยพบพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย เป็นชายวัย 70 ปี และบาดเจ็บอีก 5 ราย

ขณะที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการปะทะกับไทยในกัมพูชาเพิ่มเป็นอย่างน้อย 13 ราย และมีประชาชนมากกว่า 35,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน พลโทหญิง มาลี โสเจียตา รองเลขาธิการแห่งรัฐ และโฆษกประจำกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ระบุว่าผู้เสียชีวิตประกอบด้วยทหาร 5 นาย และพลเรือน 8 ราย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย กล่าวเตือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าการปะทะอาจนำไปสู่สงคราม ขณะนี้การสู้รบด้วยอาวุธหนักและแผ่ขยายไปยัง 12 จุดตามแนวชายแดน ก่อนเสริมว่ากัมพูชายิงโจมตีในพื้นที่พลเรือนส่งผลให้ต้องอพยพหมู่บ้านทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีจรวด

ส่วนกัมพูชากล่าวหาไทยว่าใช้ระเบิดลูกปรายหรือระเบิดพวงซึ่งถูกห้ามใช้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างไม่เลือกหน้า โดยทางการไทยยังไม่ได้ตอบสนองต่อข้อกล่าวหานี้