วันที่ 25 กรกฎาคม 68 นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยได้สั่งการให้กรมศิลปากร มีมาตรการป้องกัน รักษาและบูรณากลับคืนเมื่อน้ำลด ซึ่งมี 3 แห่ง ที่น่ากังวล และมีผลกระทบมากที่สุด คือ

1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ที่เพิ่งมีการปรับปรุงแล้วเสร็จไปเมือปี2567 แต่พบว่า มีน้ำท่วมสูงเลยขั้นบรรได และอาจจะมีผลกระทบต่ออาคารจัดแสดงชั้นล่าง ซึ่งทางกรมศิลปากรได้มีการจัดเตรียมแนวกั้น จัดเก็บโบราณวัตถุ และป้องกันไฟฟ้าไว้เรียบร้อยแล้ว และได้อนุญาตให้มีการปิดทำการชั่วคราว

2.วัดหนองบัว ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน ซึ่งรับน้ำมากที่สุด และเข้าใจว่าน้ำอาจจะเลยขั้นบรรได ซึ่งจะมีผลต่อภาพจิตกรรมส่วนล่าง โดยทางกรมศิลปกร เตรียมการเข้าไปบูรณะหลังน้ำลด ด้วยการระบายความชื้น วิธีที่ง่ายที่สุดคือ การเปิดหน้าต่าง เป็นการระบายความชื้นออกทางช่องทางธรรมชาติ หลังจากนั้นจะส่งกลุ่มอนุรักษ์จิตกรรม ที่มีความรู้ลงพื้นที่ เพื่อสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด

3.วัดภูมินทร์ ซึ่งมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปู่ม่าน-ย่าม่าน ที่หลายคนเป็นห่วงนั้น น้ำยังไม่เข้าไปตัวอาคาร ดังนั้นภาพจิตกรรมจึงยังไม่ได้รับผลกระทบ และยังไม่ได้รับความเสียหาย แต่ได้สั่งการให้เตรียมกรสอบทราย และคิดว่าน่าจะเอาอยู่ แต่เรื่องความชื้น ไม่ได้มีเฉพาะน้ำที่มองเห็น แต่มาจากใต้ดิน และส่วนอื่น ๆ ด้วย ดังนั้น หลังน้ำลดจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจอย่างจริงจัง

ทั้งงนี้ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลังน้ำลด โบราณสถานเหล่านี้ ไม่ได้รับผลกระทบถึงขั้นวิกฤตหรือเสียหายมาก เพียงแต่ต้องทำการระบายความชื้นออกโดยเร็ว