พบกัมพูชาละเมิด อนุสัญญาเจนีวา มาตรา 18 ห้ามเด็ดขาดโจมตี โรงบาล-พลเรือน

พบกัมพูชาละเมิด อนุสัญญาเจนีวา มาตรา 18 ห้ามเด็ดขาดโจมตี โรงบาล-พลเรือน

อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สี่ กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อมูล อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 (1949) มาตรา 18 พบกัมพูชาละเมิด เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และอาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 (1949) มาตรา 18 ห้ามการโจมตีโรงพยาบาลพลเรือน ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงโดยเจตนาถือเป็นอาชญากรรมสงคราม

อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 (Geneva Convention IV) ปี 1949 ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลพลเรือนในเวลาสงคราม มาตรา 18 เป็นข้อบทที่สำคัญอย่างยิ่งในการคุ้มครองโรงพยาบาลพลเรือน

มาตรา 18: การคุ้มครองโรงพยาบาลพลเรือน (Protection of civilian hospitals)

มาตรานี้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า

โรงพยาบาลพลเรือนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และหญิงมีครรภ์ จะต้องได้รับการเคารพและคุ้มครองตลอดเวลา และจะไม่ถูกโจมตี

คู่กรณีในความขัดแย้งจะต้องให้ความช่วยเหลือโรงพยาบาลพลเรือนเหล่านี้ในการปฏิบัติภารกิจ และจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นให้

โรงพยาบาลเหล่านี้จะถูกระบุด้วยสัญลักษณ์ที่ชัดเจน เช่น กากบาทสีแดงบนพื้นขาว หรือเสี้ยววงเดือนแดง (แล้วแต่กรณี) ซึ่งจะมองเห็นได้ง่ายทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้เป็นที่รู้จักและได้รับการคุ้มครอง

สาระสำคัญของมาตรา 18

ห้ามโจมตีโรงพยาบาลพลเรือนอย่างเด็ดขาด: การจงใจโจมตีโรงพยาบาลพลเรือนถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม

การคุ้มครองครอบคลุมถึงบุคลากรและผู้ป่วย: ไม่เพียงแต่ตัวอาคารโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ธุรการ ผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และหญิงมีครรภ์ที่อยู่ภายในโรงพยาบาลด้วย

คำแนะนำเรื่องที่ตั้ง: แม้จะได้รับการคุ้มครอง แต่มาตรานี้ก็แนะนำให้โรงพยาบาลพลเรือนตั้งอยู่ในที่ที่ห่างจากเป้าหมายทางทหารให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่โรงพยาบาลอาจได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการทางทหารที่มุ่งเป้าไปที่วัตถุประสงค์ทางทหารโดยไม่ได้ตั้งใจ

การเสียสละการคุ้มครอง: โรงพยาบาลพลเรือนจะเสียสละการคุ้มครองที่ได้รับตามมาตรานี้ได้ก็ต่อเมื่อมีการใช้โรงพยาบาลเพื่อกระทำการอันเป็นอันตรายต่อฝ่ายตรงข้าม นอกเหนือไปจากภารกิจทางมนุษยธรรม แต่ก่อนที่จะมีการเพิกถอนการคุ้มครอง จะต้องมีการออกคำเตือนที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่เหมาะสมและให้เวลาที่สมเหตุผลในการแก้ไขสถานการณ์นั้นๆ เสมอ เว้นแต่ในกรณีที่สถานการณ์นั้นเร่งด่วนจนไม่สามารถทำได้

มาตรา 18 นี้เป็นหลักการสำคัญที่สะท้อนถึงหลักมนุษยธรรมในการทำสงคราม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความทุกข์ทรมานของพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง และรับประกันว่าผู้ที่อ่อนแอที่สุดจะได้รับการดูแลและการคุ้มครอง

ขอบคุณที่มา กองทัพภาคที่ 2

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ