วันที่ 22 ก.ค. 2568 สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พบว่าน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดที่จุดวัดน้ำC2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 1,246ลบ.ม./วิ ส่วนระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวขึ้นต่อเนื่อง วัดได้ 15.57ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นแบบขั้นบันได จากเมื่อวาน 700ลบ.ม./วิ ขึ้นไปที่ 800ลบ.ม./วิ และอาจจะพิจารณาปรับเพิ่มเป็น 900 ลบ.ม.ในวันนี้

เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำเหนือเขื่อน รองรับมวลน้ำเหนือที่กำลังไหลบ่าลงสู่ภาคกลาง รวมทั้งฝนที่จะตกหนักจากอิทธิพลของพายุวิภา ระหว่างวันนี้ 22-24ก.ค.68 ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งเหนือเขื่อน ในขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนล่าสุดยกตัวขึ้นอีก 50 ซม.ในรอบ 24 ซม.วัดได้ 10.28 ม.รทก.

ทั้งนี้กรมชลประทานยังย้ำเตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังและเตรียมรับมือ สถานการณ์อิทธิพลจากพายุวิภา โดยทางกรมชลประทานจะมีการปรับการระบายน้ำแบบขั้นบันได ขึ้นไปได้ถึงอัตรา 1,200 ลบ.ม.ภายในสัปดาห์นี้

จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแแม่น้ำเจ้าพระยา ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำท้ายเขื่อน ใน คลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก 20-30 ซ.ม.ใน 24 ซม.ข้างหน้า