
พิชัยลั่น ไทยเตรียมเปิดตลาด 0% ให้สหรัฐฯ เกือบ 90% ลำไย-ปลานิล-รถยนต์ ติดโผ จับตาใครได้-ใครเสีย!
วันที่ 14 ก.ค. 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานเสวนา The Art of (Re) Deal ว่ารัฐบาลไทยได้ปรับข้อเสนอทางการค้าต่อสหรัฐฯ เพิ่มการเปิดตลาดสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่ได้รับการลดภาษีเหลือ 0% หรือใกล้เคียง คิดเป็นสัดส่วนสูงเกือบ 90% ของมูลค่าสินค้าส่งมาไทย ตามข้อเรียกร้องของฝั่งสหรัฐฯ โดยมีสินค้าสำคัญอย่าง ลำไย ปลานิล และรถยนต์พวงมาลัยซ้าย ติดโผ
พิชัยระบุว่า ที่ผ่านมาสินค้าจากสหรัฐฯ ที่ได้รับภาษี 0% มีเพียงราว 63-64% ของมูลค่าส่งออก แต่ทีมเจรจาไทยได้ทยอยเพิ่มเป็น 69% ในรอบแรก และล่าสุดขยับขึ้นใกล้ 90% เพื่อเปิดทางการค้าและรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยย้ำว่า จะไม่กระทบตลาดภายใน เนื่องจากสินค้าหลายรายการของสหรัฐฯ เช่น ปลานิล ราคาสูงกว่าของไทย และ รถยนต์พวงมาลัยซ้าย ที่ไทยไม่ใช้ จึงแข่งขันได้ยาก
เหตุจำเป็นต้องเจรจาใหม่ พิชัยอธิบายว่า สหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาหนี้สาธารณะพุ่งสูงและขาดดุลการค้าหนัก จึงต้องเร่งเปิดตลาดต่างประเทศรับสินค้าตัวเอง พร้อมลดมาตรการกีดกันทางการค้า (NTBs) ซึ่งไทยต้องหาจุดสมดุลผลประโยชน์ร่วมให้ลงตัว วางหลักเกณฑ์เข้ม 2 ข้อ 1.เปิดตลาดเฉพาะสินค้าที่ไทยผลิตไม่ได้ หรือไม่เพียงพอ 2.ไม่กระทบต่อข้อตกลง FTA ที่ทำไว้กับประเทศอื่น
พิชัยยังแสดงความกังวลต่อการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า (Transhipment) ซึ่งไทยกำหนดใช้วัตถุดิบในประเทศขั้นต่ำ 40% ต่างจากเวียดนามที่คาดว่าต้องถึง 60-80% ซึ่งเป็นโจทย์ที่ต้องหารือร่วมกันต่อไป
เพื่อลดผลกระทบต่อ SME และเกษตรกร ไทยเตรียมปล่อยซอฟต์โลนวงเงิน 200,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% ผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อดูแลด้านสภาพคล่อง การลงทุน การจ้างงาน และบริหารสต๊อกสินค้า
พิชัยย้ำ วิกฤตครั้งนี้คือโอกาส ถ้าไม่เจอกำแพงภาษี เราก็คงไม่ปรับตัว ขีดความสามารถก็จะถดถอย ต้องรู้จักพึ่งพาตัวเองมากขึ้นแทนการพึ่งพาการส่งออกเหมือนในอดีต พิชัยทิ้งท้าย พร้อมระบุว่า ไทยเตรียมเปิดโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการกับสหรัฐฯ เร็วๆ นี้ คาดว่าอัตราภาษีเวียดนามจะเป็นฐานอ้างอิงสำคัญในการต่อรอง