เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์สารแอมโมเนียรั่วที่โรงน้ำแข็ง ภายในซอยเนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 22.06 น.นับเป็นความโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ล่าสุดวันที่ 14 ก.ค.68 นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุงคน พร้อมด้วยนางสาววิไลลักษณ์ จีนศรี หัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผนงาน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา นายวันชัย แสนงาม รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ นายแพทย์วิชัย ธนาโสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ

ร.ต.อ.หญิงกัญรภา มุกดาสนิท ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุและค่าสารแอมโมเนียภายในโรงน้ำแข็งดังกล่าว โดยมี นายพิมลธรรม แสงจันทร์ กรรมการบริหารโรงน้ำแข็ง ทำหน้าที่ชี้แจงรายละเอียดให้กับเจ้าหน้าที่

นางสาววิไลลักษณ์ จีนศรี หัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผนงาน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี เผยว่า หลังได้รับแจ้งเกิดเหตุสารแอมโมเนียรั่วในช่วงกลางคืนของวันที่ 13 ก.ค.68 เจ้าหน้าที่โรงงานคุมเหตุการณ์ได้ หลังจากได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับเจ้าของโรงงานน้ำแข็งและพนักงาน ทราบว่ายังไม่ได้ทีการตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์เครื่องทำความเย็น

จึงเป็นเหตุให้อุตสาหกรรมจังหวัดมีคำสั่งหยุดประกอบกิจการทั้งหมดเป็นการชั่วคราว ตามความในมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 จนกว่าจะได้การดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.โรงงาน โดยทางเจ้าของโรงงานจะต้องส่งรายงานการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องจักร ซึ่งรายงานดังกล่าวจะต้องมีการรับรองจากวิศวะกรควบคุม

ทั้งนี้หลังได้รับรายงานเอกสารจากโรงงานแล้วทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะส่งพนักงานเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบมาตรฐาน ก่อนจะมีการพิจารณาให้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งต่อไป ส่วนสาเหตุนั้นจากข้อสันนิฐานของโรงงานทราบว่าเบื้องต้นเกิดจากความผิดพลาดจากคนงานที่อาจจะไม่ได้ดำเนินงานไปตามขั้นตอนวิธีปฏิบัติจึงทำให้ระบบเซฟตี้วาล์วทำงานจนทำให้มีการระบายแอมโมเนียออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ

ด้าน ร.ต.อ.หญิงกัญรภา มุกดาสนิท ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์สารแอมโมเนียรั่วนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอบางละมุงและ เจ้าสำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ได้บูรณาการร่วมในการตรวจสอบหน้างานพบว่าขณะนี้ไม่พบกลิ่นของสารแอมโมเนียในเบื้องต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการยืนยันและให้ได้ค่ามาตรฐานที่ถูกต้อง และเกิดความสบายใจของประชาชนโดยรอบพื้นที่โรงงาน

หน่วยงานสาธารณสุขและเจ้าหน้าสคร.6 จะตรวจสอบมวลพิเศษทางด้านอากาศ รวมถึงน้ำดื่ม และน้ำแข็ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับผู้บริโภค ทั้งนี้จากรายงานจากโรงพยาบาลและผู้นำชุมชน ยังไม่พบการร้องเรียนในเรื่องของการเจ็บป่วยที่รุนแรงแต่อย่างใด และในขณะนี้เหตุการณ์ยังเป็นปกติ ไม่อยากใทุกคนตื่นตระหนก จากนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมตรวจสอบให้เร็วที่สุดต่อไป

ขณะที่ นายพิมลธรรม แสงจันทร์ กรรมการบริหารโรงน้ำแข็ง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่าเมื่อช่วงเวลา 22.00 น.ของวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา พบมีกลิ่นแอมโมเนียออกมาจากถังบรรจุขนาด 30 ตัน หลังเกิดเหตุสารแอมโมเนียรั่วออกมา พนักงานก็ได้ทำการปิดวาล์วทั้งหมดทันทีเพื่อระงับกลิ่นไม่ใช้ชาวบ้านเดือนร้อน เมื่อระงับกลิ่นเสร็จก็ทำการหยุดการผลิตและมาในช่วงเช้าก็ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุเพิ่มเติม

โดยให้เจ้าของเครื่องและทีมเอาท์ซอสของโรงงานร่วมตรวจสอบหาสาเหตุ จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีรอยรั่วจากตัวเครื่องจักร แต่จะเป็นในส่วนความผิดพลาดของพนักงาน ที่ไม่ดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนนี้ทางโรงงานจะมีการสอบสวนอีกที จากนี้ทางโรงงานก็พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของภาครัฐทุกขั้นตอนทั้งปิดโรงงานชั่วคราว เพื่อตรวจสอบมาตรฐานการผลิต และรับผิดชอบต่อสังคมต่อไป

จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ภายในโรงงาน ล่าสุดเจ้าของเครื่องจักรร่วมกับทีมงานของโรงงานได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าไม่มีร่องรอยการรั่วไหลจากตัวเครื่องจักรแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าสาเหตุเกิดจากความผิดพลาดของพนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด ซึ่งขณะนี้ทางโรงงานอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

ทั้งนี้ โรงงานยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในทุกขั้นตอน รวมถึงการปิดโรงงานชั่วคราวเพื่อตรวจสอบมาตรฐานการผลิต พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงจัง

เรียบเรียงโดย มุมข่าว